ข่าวในหมวด เจาะประเด็น

เจาะประเด็น ปมพิพาทรุกที่ดินสาธารณะ

วันนี้ เราเจาะประเด็น กรณี ที่เจ้าของที่ดินในจังหวัดสุราษฎร์ธานีรายหนึ่ง เข้าร้องเรียนกับทีมงานเจาะประเด็น ว่าที่ดินที่ตนครอบครองมาตั้งแต่ปี 2498จนถึงปัจจุบัน และมีเอกสารถูกต้อง จู่ๆ กลับถูกยึดคืน หาว่าบุกรุกที่ดินสาธารณะ แม้พยายามชี้แจงด้วยเอกสารหลักฐาน แต่ไม่เป็นผล ซ้ำยังถูกกดดันไล่ที่สารพัดรูปแบบขนาดเจ้าของจะสร้างบ้านบนที่ดินของตัวเอง ก็ถูกเตือนให้รื้อถอนออกใน 15 วัน คือภายในวันที่ 23 กันยายนนี้ 
             
ขณะที่ คนอื่นที่บุกรุกที่สาธารณะจริงๆ กลับไม่ถูกดำเนินการใดๆทำให้เจ้าของที่ดิน รู้สึกเหมือนถูกเลือกปฏิบัติ จึงออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม

ที่ดินผืนดังกล่าว ในพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลย่านยาว อ.ท่าขนอน หรือเขตตำบลบ้านทำเนียบ อ.คีรีรัฐนิคมในปัจจุบัน เป็นที่ดินทำเลดี เนื้อที่ประมาณ 270 ไร่ล้อมรอบด้วยเทือกเขา เจ้าของที่เล่าว่า ในอดีต ที่ตรงนี้เป็นของนายดวก ศรีปานต่อมา ตกทอดมาถึงนายประดิษฐ์ ศรีปาน ซึ่งได้ขอเอกสารสิทธิ์ สค.1 ระบุความเป็นเจ้าของตั้งแต่ปี 2498  โดยขอได้ 3 แปลง คือแปลงเลขที่ 21, 22 และ 23 แปลงละ 30 ไร่ ส่วนที่เหลือก็ล้อมรั้วกั้นไว้ แสดงอาณาเขตส่วนตัว ซึ่งในพื้นที่ทั้งหมดใช้เลี้ยงควายและทำนา และแบ่งที่บางส่วนให้เพื่อนบ้านปลูกยางพารา และปาล์มน้ำมัน


กระทั่ง ปี 2515 พื้นที่รอบๆ ที่ดินของนายประดิษฐ์ ถูกประกาศเป็นที่สาธารณะ และระบุให้เจ้าของที่ดินที่ถือใบ สค.1 อยู่ ไปเปลี่ยนเป็นโฉนดนส.3นายประดิษฐ์ก็ไปยื่นเรื่อง แต่ไม่ผ่าน /ที่ดินจังหวัด อ้างว่า ออกไม่ได้ เพราะที่ดินมีคลองกั้นกลาง และเอกสารเดิมก็ถูกไฟไหม้ไปแล้ว นายประดิษฐ์จึงมีเพียงใบสค.1เท่านั้น ที่เป็นหลักฐานยืนยันสิทธิ์
             
ปัญหามาเกิดในปี 38 เมื่อกำนันต.บ้านทำเนียบ มาขอคืนพื้นที่บนแปลงที่ดินเลขที่ 21 อ้างว่าบุกรุกที่สาธารณะ ซึ่งได้ฟ้องร้องกัน จนศาลยกฟ้องไปแล้ว แต่เรื่องไม่จบ ปี 55 มีเจ้าหน้าที่อบต.บ้านทำเนียบ เข้ามาขอใช้พื้นที่ ในแปลงเลขที่21 อีก เพื่อสร้างที่ทำการอบต.และสำนักสงฆ์ อ้างเหตุเป็นที่สาธารณะเช่นกัน ซึ่งเจ้าของที่ก็โต้แย้งกลับไป แต่ก็กลับมีคนเข้าไปก่อสร้างอาคารจนแล้วเสร็จ ซ้ำขยายพื้นที่เรื่อยๆโดยที่ดินถูกรุกไปแล้วกว่า 20 ไร่  
             
นอกจากนี้ ยังถูกไล่ที่สารพัดรูปแบบ รุนแรงถึงขั้นเผาต้นปาล์มที่ปลูกไว้ เจ้าทุกข์แจ้งความแล้ว แต่เรื่องก็เงียบหาย

หลายครั้งที่เจ้าของที่ร้องขอให้รังวัดที่ดินใหม่ เพื่อยุติปัญหา แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยง จนล่าสุด ปลายสิงหาคมที่ผ่านมา คนงานก่อสร้างและนายอภิสิทธิ์ ศรีปานลูกชายของนายประดิษฐ์ ถูกจับกุมข้อหาบุกรุกที่ดินสาธารณะอีกครั้ง ขณะกำลังสร้างบ้านพร้อมมีหนังสือเตือนให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออก ภายในวันที่ 23 กันยายนนี้
             
แต่เมื่อย้อนตรวจสอบเอกสารที่เจ้าหน้าที่นำมาจับกุม ก็พบพิรุธเพราะเอกสารที่นำมาอ้างจับกุมเป็นที่ดินแปลงอื่น ที่อยู่คนละหมู่บ้าน
             
ขณะที่ ชาวบ้านซึ่งยอมรับว่า ทำกินรุกล้ำที่สาธารณะจริงๆ ก็รู้สึกแปลกใจ ที่เจ้าหน้าที่มุ่งยึดเฉพาะที่ดินของนายประดิษฐ์ ทั้งๆ ที่ตนเองก็ทำผิดกฎหมายแต่กลับไม่ถูกดำเนินการใดๆ

เพื่อข้อมูลที่ชัดเจน ทีมข่าวเดินทางไปยังสำนักงานที่ดิน อ.คีรีรัฐนิคม ปรากฎว่า สำนักงานถูกปิดเงียบ เราจึงไปสอบถามที่สำนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ก็ไม่มีใครให้ข้อมูลได้

คุณผู้ชมคะ การถือเอกสาร สค.1 นั้น จริงแล้ว สามารถใช้ยืนยันความเป็นเจ้าของในที่ดินได้เช่นกัน แม้ทางการจะยกเลิกใช้ไปแล้ว แต่ทั้งนี้ เจ้าของที่ต้องฟ้องร้องต่อศาล เพื่อยืนยันสิทธิ์

อธิบดีกรมที่ดิน ระบุ กรณีนี้ เป็นการโต้แย้งสิทธิ์ครอบครองที่ซึ่งหากตรวจสอบเอกสารแล้ว ยังพิสูจน์กันไม่ได้ ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการชั้นศาล   
             
ซึ่งการถือครองใบสค.1 นั้นเป็นการออกหนังสือรับรองทำประโยชน์ในที่ดินเช่นเดียวกับนส.3  หากเจ้าของที่ยังไม่เปลี่ยนจากสค.1เป็นนส.3 ก็ยังสามารถอ้างสิทธิ์ตามสค.1 ได้ จนกว่าจะมีคำสั่งศาลออกมาให้เป็นอื่น

ล่าสุด เจ้าของที่ยื่นร้องต่อ คสช.ให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งเรื่องนี้ สามารถยุติได้อย่างละมุนละม่อม เพียงรังวัดที่ดินใหม่ตามความเป็นจริง ซึ่งหากผิดจริง เจ้าของที่ก็ยืนยัน พร้อมคืนที่ดินให้กับสาธารณะ แต่หากเจ้าหน้าที่ละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนด้วย

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark