เจาะประเด็น สั่งตาย!! มือปืนกระหน่ำยิงตี๋ใหญ่บางละมุง
เกิดคดีอุกฉกรรจ์ ที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อมือปืนได้กระหน่ำยิงกว่า 13 นัด สังหารโหดขาใหญ่บางละมุง เจ้าของฉายา"ตี๋ใหญ่-ตะเคียนเตี้ย" ดับสยองริมฟุตบาท ขณะนั่งกินเหล้ากับเพื่อนอยู่ที่ร้านเช่าพระเครื่องของอดีตนายกเมืองพัทยา ครอบครัวผู้ตายเผย ผู้ตายอยู่แบบระวังตัว ไม่เป็นหลักแหล่งเลยไม่รู้ว่ามีเรื่องบาดหมางกับใคร ขณะที่ตำรวจพุ่ง 3 ปม ฆ่าล้างแค้น, ขัดผลประโยชน์และยาเสพติด สอบพบผู้ตายมีประวัติโชกโชน อยู่ระหว่างหนีหมายจับ 2 คดีทั้งฆ่าคนตายและทำร้ายร่างกายไปเจาะลึก-จนรู้ในเจาะประเด็น
01.00 น.เช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี เข้าตรวจสอบเหตุยิงกันตาย ที่บ้าน 2 ชั้น ซึ่งเปิดเป็นร้านเช่าพระเครื่อง ของชมรมพระเครื่องพัทยา-นาเกลือ บริเวณหน้าร้านพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกเกลื่อน 13 ปลอก และหัวกระสุนปืนขนาดเดียวกัน 3 หัว ส่วนผู้ถูกยิงได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบางละมุง แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อ คือนายวัชรา แก้วสุวรรณ์หรือฉายา"ตี๋ใหญ่-ตะเคียนเตี้ย" อายุ 34 ปี พบถูกยิงพรุนแทบทั้งร่าง
เพื่อนผู้ตาย เล่าว่า ตนเองกับนายตี๋และเจ้าของร้านเช่าพระเครื่องได้ชวนกันกินเหล้าอยู่หน้าร้าน ต่อมานายตี๋ได้โทรชวนเพื่อนมากินด้วยกันอีก 2 คน ซึ่งตนก็ไม่รู้จักคนทั้งสอง โดยกินตั้งแต่หัวค่ำ กระทั่งใกล้เที่ยงคืน กะลังจะแยกย้ายกันกลับบ้าน จู่ๆก็มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ขับรถเก๋งยาริสสีขาวไม่ทราบทะเบียนมาจอดประชิดริมฟุตบาทห่างร้านไม่ถึง 200 เมตร และไม่ทันคาดคิด!มือปืนได้ลดกระจกหลังฝั่งข้างคนขับ รัวกระสุนปืนกระหน่ำยิงนายตี๋ที่กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ริมฟุตบาทพอดี จนล้มฟุบจมกองเลือดขณะที่ตนและคนอื่นๆ ต่างพากันหลบวิถีกระสุนเอาชีวิตรอดกันจ้าละหวั่น
เจ้าของร้านเช่าพระเครื่อง อดีตนายกเทศมนตรีเมืองพัทยา ซึ่งร่วมดื่มกินในวงเหล้าด้วย แต่ลุกไปนอนก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 ชั่วโมง เล่าว่าตนเองไม่เคยรู้จักนายตี๋ผู้ตายมาก่อน เพิ่งเจอครั้งแรกในวงเหล้าเพราะผู้ตายเป็นเพื่อนกับลูกน้องที่ร้านซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มรถฮาเล่ย์ เหตุที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวข้องกับตน น่าจะเป็นความบาดหมางส่วนตัวของผู้ตายเอง ตั้งข้อสังเกตก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้โพสต์ภาพลงเฟซบุ๊กว่ามานั่งกินเหล้าอยู่ที่นี่ อาจเป็นการชี้ช่องให้คนร้าย
ครอบครัวเผยช่วง 1 ปีกว่ามานี้ผู้ตายได้แยกตัวออกไปอยู่อาศัยกับเพื่อน ไม่ค่อยได้ติดต่อกับครอบครัว จึงไม่ทราบว่าผู้ตายมีเรื่องบาดหมางกับใครรู้สึกเสียใจกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น
นางน้ำตาล ทับขัน แม่ผู้ตายเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเพิ่งกลับมาจาก บ้านที่ จ.ศรีสะเกษ เพื่อมาเยี่ยมลูกๆ ที่ อ.บางละมุง ปกติจะไม่เจอกับนายตี๋ ซึ่งเป็นลูกชายคนที่ 2 แต่คราวนี้จู่ๆกลับเจอนายตี๋ มาโผเข้ากอดตนและมอบเงินให้ 500 บาทตนยังได้ตักเตือนลูกชาย เรื่องการประพฤติตัว การคบเพื่อน และให้ตั้งใจทำมาหากินซึ่งเหมือนเป็นลางร้าย ไม่คิดว่าลูกจะมาด่วนจากไปทั้งที่อายุยังน้อย
พี่สาวเล่าว่า ก่อนหน้านี้นายตี๋น้องชายอาศัยอยู่กับตน แต่หลังน้องชายลาออกจากทำงานโรงงานมาปีกว่าๆ ก็ไม่ค่อยได้เจอกัน เพราะน้องชายไปๆ-มาๆ ไม่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำงานอะไร ช่วงหลังทราบเพียงว่าน้องคบเพื่อน และมีปัญหาด้านคดีความ แต่ก็ไม่ได้มาขอความช่วยเหลืออะไร รู้สึกผิดสังเกตว่าน้องอยู่แบบระวังตัวมาก ไปไหน-มาไหนไม่ค่อยบอกใคร
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ทั้งระดับภาค และระดับจังหวัดชลบุรี ได้ระดมกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสคนร้าย โดยตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด และเส้นทางการหลบหนี เบื้องต้นเชื่อว่าคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 3 คน คาดว่าน่าจะติดตามความเคลื่อนไหวผู้ตายมาระยะหนึ่งแล้ว พอสบโอกาสจึงลงมือ ขณะที่ผู้ตายพบว่าก็ระวังตัวอยู่แล้วว่ามีคนปองร้าย เพราะพกอาวุธปืนสั้นติดตัวตลอดเวลา ตั้งปมสังหาร 3 ปมให้น้ำหนักที่การฆ่าล้างแค้น ขัดผลประโยชน์และยาเสพติด ล่าสุดพบเบาะแสคนร้ายแล้วจากกล้องวงจรปิด และติดตามพบรถต้องสงสัยแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบ สาวถึงตัวคนร้าย
ตำรวจได้ฝากถึงครอบครัวผู้ตายว่า แม้ผู้ตายจะเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีอุกฉกรรจ์ถึง 2 คดี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันจะติดตามคนผิดในคดีนี้มาลงโทษตามกฎหมาย เพราะคนละคดีกัน และกรณีนี้ถือว่าคนร้าย ลงมืออย่างอุกอาจและเหี้ยมโหด
