ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

รวบแก๊งชนแล้วตบทรัพย์หวังเรียกเงิน สุดท้ายเงิบ เหยื่อไม่หลงกล

แก๊งมิจฉาชีพพยายามขับรถประกบเหยื่อ เพื่อให้ถูกชน ก่อนจะเรียกร้องค่าเสียหาย แต่พลาดกลายเป็นฝ่ายผิด เพราะเหยื่อไม่หลงกล

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บริเวณ ถนนจรดวิถีถ่อง ตำบลน้ำรึม อำเภอเมืองตาก ก่อนถึงสนามบินตาก ประมาณ 5 กิโลเมตร 

นายมณเทียน ไทยแท้ อายุ 72 ปี และ นางสายทอง ไทยแท้ อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหายเล่าว่า ขณะที่กำลังขับรถกระบะบนถนนจรดวิถีถ่อง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ จู่ๆ ก็มีรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีดำ มาขับดักอยู่ข้างหน้า และ มีรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีดำ มาขับตีคู่ทางด้านขวา จากนั้นรถเก๋งสีแดง ทะเบียน กว 3494 ชลบุรี ที่ขับตามหลังมา ก็พยายามเร่งเครื่องเบียดรถของตน พร้อมกดแตรรถเสียงดังเพื่อไล่ให้ตนเร่งเครื่องไปข้างหน้า ตอนนั้นก็ยอมรับว่าตกใจ แต่ไม่ยอมหักรถหลบ โดยได้ชะลอรถแทน ทำให้รถเก๋งสีแดงคู่กรณีเฉี่ยวชนด้านท้ายรถของตน

หลังเกิดเหตุคู่กรณีก็ได้จอดรถ และบอกว่าจะแจ้งบริษัทประกัน เพื่อให้มาดูความเสียหาย พร้อมทำท่าทางลักษณะคล้ายกับจะข่มขู่ แต่ตนเคยดูข่าวว่ามีมิจฉาชีพในลักษณะนี้ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ

ทันทีที่ตำรวจมาถึงก็ได้สอบถาม นายสมภพ แน่นอุดร อายุ 36 ปี คนขับรถเก๋งคู่กรณี ตอนแรกก็ยังให้การปฏิเสธ แต่พูดจาวกไปวนมา มีพิรุธ ตำรวจจึงแยกไปสอบสวนจนยอมรับสารภาพว่าได้ร่วมกับเพื่อนในแก๊งสร้างสถานการณ์เพื่อให้รถผู้เสียหายมาเฉี่ยวชนรถของพวกตน โดยจะมีรถร่วมกันก่อเหตุ 3 คัน ก่อเหตุ ในพื้นที่ถนนพหลโยธิน ตั้งแต่ จังหวัดตาก ถึงจังหวัดชัยนาท และถนนจรดวิถีถ่อง ตั้งแต่จังหวัดตากถึงจังหวัดพิษณุโลก

ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ไปก่อเหตุในพื้นที่ อำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก ได้เหยื่อ 2 ราย ๆ ละ 1,500 บาท ส่วนกรณีนี้ที่ถูกจับได้นี้ดันผิดแผน เพราะคนขับไม่ยอมหักหลบไปชนท้ายกับอีกคัน แต่กลับชะลอรถทำให้ตนเป็นฝ่ายชนแทน

เบื้องต้น ตำรวจตรวจสอบพบ มีวิทยุสื่อสารของทางราชการอยู่ในรถ จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันมีวิทยุสื่อสารของทางราชการ ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดอาญา มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ ไม่เกิน 1 แสนบาท โดยได้ทำเรื่องฝากขังทันที และยังไม่ให้ประกันตัว

ส่วนการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา หากผู้ใดเคยประสบเหตุลักษณะดังกล่าวบนเส้นทางถนนพหลโยธิน ตั้งแต่จังหวัดนครสวรรค์ ถึงจังหวัดชัยนาท และถนนจรดวิถีถ่อง ช่วงจังหวัดตากถึงพิษณุโลก สามารถแจ้งให้ข้อมูลพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิดในข้อหาฉ้อโกงประชาชนตามกฎหมายต่อไป

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark