วิสามัญฯ เกร็ก ผู้ต้องหาก่อคดีโชกโชน จ.นครศรีธรรมราช

เช้านี้ที่หมอชิต - คดีผู้ต้องหาชื่อ เกร็ก มือปืนรับจ้าง และเป็นผู้ต้องหาหนีหมายจับ 15 คดี ทั้งในคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ฆ่าคนตาย และมือปืนรับจ้าง หลังจากหลบหนีการจับกุมตำรวจเมื่อสัปดาห์ก่อน ล่าสุดเมื่อวานนี้ตำรวจเจอสถานที่กบดาน นำกำลังเข้าจับกุม แต่นายเกร็ก เปิดฉากใช้ปืนยิงต่อสู้ ทำให้ถูกวิสามัญฯในที่เกิดเหตุที่จังหวัดนครศรีธรรมราช

จากกรณีตำรวจชุดสยบไพรี ตำรวจภูธรภาค 9 และชุดปราบปรามยาสเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง เกือบ 100 นาย นำกำลังบุกไปปิดล้อมรีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดพัทลุง เมื่อวันที่ 19 มราคมที่ผ่านมา หลังจากสืบสวนทราบว่า นายประดิษฐ์ มุสิกะสงค์ หรือ เกร็ก อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นมือปืนรับจ้าง และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับติดตัวมากถึง 15 คดี พร้อมด้วยภรรยา และพรรคพวกได้หลบหนีมากบดานอยู่ที่รีสอร์ตดังกล่าว แต่ นายประดิษฐ์ ไหวตัวหลบหนีไปได้ พร้อมใช้อาวุธสงครามกราดยิงเข้าใส่ตำรวจ ตลอดหลายวันที่ผ่านมาาตำรวจพยายามติดตามไล่ล่าจับกุมตัว แต่ผู้ต้องหาคนนี้หลุดรอดไปหลายครั้ง  

กระทั่ง พลตำรวจเอก สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระดมกำลังตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรภาค 8 และตำรวจตระเวนชายแดนที่ 434 พัทลุง รวมกว่า 50 นาย เข้าปิดล้อมบ้านหลังเป้าหมายอยู่ในพื้นที่ตำบลรามแก้ว อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากได้รับเบาะแสว่า นายประดิษฐ์  ได้พาภรรยามาหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว แต่ระหว่างเจรจาขอให้ นายประดิษฐ์ ยอมเข้ามอบตัว แต่ไม่เป็นผล กลับยิ่งแสดงอิทธิฤทธิ์ใช้ที่พกติดตัว มีทั้งอาวุธปืนหลายขนาด ในจำนวนนี้มีอาวุธปืนสงคราม กราดยิงใส่ตำรวจอย่างไม่ยอมลดละ และดูท่าว่าผู้ต้องหาจะไม่ยอมจำนนง่าย ๆ อีกทั้งผู้ต้องหามีพฤติการณ์เหิมเกริมไม่หยุด พยายามขว้างระเบิดใส่ตำรวจด้วย ทำให้ในที่สุดตำรวจต้องตัดสินใจงัดไม้แข็ง ก่อนจะเกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจกับ นายประดิษฐ์ ปะทะกันประมาณ 10 นาที แต่ผลสุดท้าย นายประดิษฐ์ เป็นฝ่ายถูกวิสามัญฯ ในจุดเกิดเหตุ

ต่อมาตำรวจและเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย (พนักงานอัยการ ฝ่ายปกครอง แพทย์ และพนักงานสอบสวน สภ.เขาพังไกร เจ้าท้องที่เกิดเหตุ) เข้าทำสำนวนวิสามัญฆาตกรรมพบผู้เสียชีวิต มีบาดแผลถูกยิงเข้าบริเวณขา และตามร่างกายหลายแหล่ง พร้อมกันนี้ตรวจสอบพบอาวุธปืนเอ็ม 16 (ตัดลำกล้องแบบสั้น เพื่อสะดวกซุกซ่อนได้ง่าย) จำนวน 1 กระบอก ซึ่งเป็นกระบอกที่ใช้ก่อเหตุยิงต่อสู้ตำรวจ นอกจากนี้ยังค้นเจออาวุธปืนขนาดจุด 357 อีก 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนจำนวนมาก ซุกอยู่ในกระเป๋าเป้ ตำรวจจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

เมื่อย้อนดูประวัติของ นายประดิษฐ์ พบก่อเหตุไว้อย่างโชกโชนมาตั้งแต่ ปี 2550 โดยตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทลุง และศาลจังหวัดตรัง และศาลจังหวัดสงขลา รวม 15 คดี มีทั้งคดี ฆ่าผู้อื่น 5 คดี,  พยายามฆ่าผู้อื่น 3 คดี, พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน 1 คดี, ร่วมกันปล้นทรัพย์ 1 คดี  นอกจากนี้ยังมีคดีเกี่ยวกับยาเสพติด และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนอีกจำนวน 5 คดี

หลังจากที่นายประดิษฐ์ ถูกวิสามัญฯ แล้ว จังหวะเดียวกันนี้ตำรวจยังได้เข้าจับกุม นางบุหลัน (ขอสงวนนามสกุล) อายุประมาณ 40 ปี ภรรยาของ นายประดิษฐ์ ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้าน โดยตำรวจได้ควบคุมตัวไปสอบสวนต่อในท้องที่ตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง เพื่อดำเนินคดีตามที่ถูกออกหมายจับก่อนหน้านี้ ในข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่, ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานฯ และ ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง

ส่วนกลุ่มผู้ต้องหาที่เหลือ ยังหลบหนีอยู่ในขณะนี้ประกอบด้วย นายม่อน, นายทูน และนายโด้ พลตำรวจเอก สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าไม่รอให้มอบตัว แต่จะขยายผลออกติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้