สานต่อ “มนต์รักดอกผักบุ้ง เลิกคุยทั้งอำเภอ” ‘เอกชัย ศรีวิชัย’ นั่งแท่นกำกับ 'มนต์รัก วัวชน’

            หลังจากประสบความสำเร็จจากภาพยนตร์ “มนต์รักดอกผักบุ้ง เลิกคุยทั้งอำเภอ” ฝากฝีไม้ลายมือในการกำกับฯ ภาพยนตร์ที่มุ่งส่งเสริมและเผยแพร่ความงดงามของศิลปะวัฒนธรรมพื้นเมืองของภาคใต้เอาไว้หลายเรื่อง สำหรับผู้กำกับ “เอกชัย ศรีวิชัย”  ล่าสุดยังคงลายเซ็นต์ขุนพลแดนใต้ไว้กับภาพยนตร์เรื่อง “มนต์รัก วัวชน” ที่มุ่งส่งเสริมกีฬาวัวชน กีฬายอดนิยมของพี่น้องชาวใต้  ที่ได้รับความไว้วางใจจาก คุณปัญชลีย์  นิธิจิระโรจน์ ผู้อำนวยการสร้างจาก บริษัท เอ็ม เทอร์ตี้ไนน์ จำกัด (M39)  มอบโปรเจ็คภาพยนตร์เรื่องนี้ให้รับผิดชอบ             “ มนต์รักวัวชน เป็นภาพยนตร์ที่เราทำงานภายใต้โจทย์ว่า อยากเอาสีสันและความเอนเตอร์เทนเนอร์จากคนภาคใต้และภาคอีสานมารวมกันได้ มันก็เลยเกิดโปรเจค (project) นี้ ทำให้มี “หม่ำ จ๊กม๊ก” มาปะทะกับ เอกชัย ศรีวิชัย อีกครั้ง ถ้าถามว่าอะไรจะเป็นจุดตั้งต้นหรือว่าไอเดียเป็นแบบไหน ผมมองว่านอกจากวัฒนธรรมแล้ว   มันจะมีอะไรที่สามารถเป็นจุดรวมของคนที่ชอบสิ่งเดียวกันได้ ซึ่งเราก็มองเรื่องกีฬา ซึ่งกีฬามันมีหลากหลายมาก  แต่กีฬาที่ยิ่งใหญ่และแมสระดับนานาชาติของภาคใต้ก็คือกีฬาวัวชน  ซึ่งมันเป็นกีฬาที่คนภาคใต้ให้ความนิยมมากๆ รวมถึงภาคอื่นๆ ก็เล่นเหมือนกัน  เราจึงใช้กีฬาวัวชนเป็นจุดรวมและเกิดเป็นพล็อตเรื่องนี้ขึ้นมา มีตัวละคร มีแก๊งสามสี่ก๊วน มาเจอกันด้วยกีฬาวัวชน แล้ววัวชนมันไม่ได้อยู่แค่ปักษ์ใต้ แต่มันมีอยู่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีน ลาว  เวียดนาม และในหลายๆ ประเทศก็มีวัวชน”             “เส้นเรื่องจริงๆ มันเป็นเรื่องความรักของเพื่อน 3 กลุ่ม กำนันช้าง (เอกชัย ศรีวิชัย) เสี่ยแมว (หม่ำ จ๊กมก) พ่อเณรไข่ (มนตรี แสงมณี) เป็นแนวเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด 3 คน ที่มีความผูกพันกันมาตั้งแต่ในอดีต พอมาถึงปัจจุบันต่างคนต่างไปมีสถานะที่ต่างกัน อย่าง หม่ำ จ๊กมก ก็ไปเป็นเสี่ยเจ้าของสนามวัวชน ตัวพ่อพระเอก ก็จะจนกว่าคนอื่นทั้งหมดตามสตอรี่ของหนัง  ส่วนตัวเราเองก็เป็นกำนัน  ทั้ง 3 คนก็เชือดเฉือนกันอยู่เป็นประจำ โดยรุ่นลูกก็มีความผูกพันกันอีก โดยลูกบ้านนี้ก็ไปรักลูกบ้านโน้น เราจะวางปมซ่อนเรื่องเอาไว้ ซ่อนตัวผู้ร้าย ให้คนทายไม่ถูก ว่าใครเป็นผู้ร้ายกันแน่ เรียกว่าเป็นความสนุกสนานของหนังเรื่องนี้ ผู้ร้ายในหนังทุกเรื่อง จะเห็นชัดว่าใครเป็นผู้ร้าย  แต่ในเรื่องนี้จะไม่เห็นว่าเป็นผู้ร้าย  ส่วนพระเอกเราก็ได้ ไพศาล ขุนหนู มาเป็นพระเอกซึ่งคนใต้ให้ความชื่นชอบมาจากผลงานที่ผ่านมา มาเจอกับนางเอกคือ ตั๊กแตน ชลดา ที่เป็นคนภาคอีสาน แล้วภาพยนตร์เร่องนี้ยังปลดล็อคความเป็นนางเอกของเมืองไทยในแบบเดิมๆ ที่ว่านางเอกต้องสวย หุ่นดี เพอร์เฟค คือนางเอกไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าหญิง  เพราะทุกคนต่างเป็นนางเอกในแบบฉบับของตัวเอง   ดังนั้นเรื่องนี้เราเลยใช้ความเรียลของนางเอกคือ อ้วน ไม่ได้สวยมาก  แต่เขาเป็นตัวเอกในเรื่อง และยังมีนักแสดงอีกมากมายมาร่วมเสริมทัพสร้างความบันเทิง   มาติดตามให้กำลังใจและอุดหนุนหนังไทยกันนะครับ”