อีกไม่นานเกินรอ! เนรมิตสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ประดุจกำลังอยู่ในท้องพระโรง

อีกไม่นาน รถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดิน จะขยายเส้นทางครอบคลุมทั่วกรุงเทพมหานคร โยงใยไปถึงพื้นที่รอบนอก เอื้อให้ประชาชนสามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่นอกจากโครงสร้างและระบบรางของรถไฟฟ้าแล้ว เรื่องสำคัญอีกอย่างที่ไม่อาจมองข้าม คือการออกแบบตกแต่งสถานี ซึ่งเปรียบเสมือนห้องรับแขกที่ผู้มาเยือนจะได้ยลโฉม

สถานีรถไฟที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดในโลก อยู่ที่กรุงมอสโคว ประเทศรัสเซีย ที่นี่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้ไปสัมผัสกับสถาปัตยกรรมกลายเป็นแลนด์มาร์คของนักเดินทาง มีการนำรูปปั้นสำริด และลวดลายโมเสกมาประดับตกแต่ง สะท้อนภาพทางประวัติศาสตร์ เพื่อรำลึกเหตุการณ์สำคัญของชาติเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า ระบบรถไฟฟ้าไม่เพียงแต่อำนวยให้การใช้ชีวิตในเมืองใหญ่สบายขึ้นเท่านั้น แต่ยังให้คุณค่าทางจิตใจด้วย

และแน่นอนว่าความสวยงามแบบเดียวกันนี้ กำลังจะถูกเนรมิตขึ้นในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินของไทยเป็นครั้งแรก  ทีมข่าวเจาะประเด็นสเปเชียลได้เปิดใจศิลปินแห่งชาติ ผู้เตรียมพลิกโฉมสถานีรถไฟฟ้า ด้วยสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงาม พร้อมจำลองภาพอิมเมอร์ซีฟเสมือนจริง ประดุจนักท่องเที่ยวกำลังเดินอยู่ในท้องพระโรง เพื่อเปิดประตูก้าวสู่พระบรมมหาราชวัง หนึ่งในแลนด์มาร์คระดับโลกของไทยเลยทีเดียว

รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายหัวลำโพงถึงบางแค  เป็นเส้นทางที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในห้วงเวลานี้ ถือเป็นการพลิกโฉมการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าแบบที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในประเทศไทย นักออกแบบดึงเอาเอกลักษณ์ของแต่ละจุดมารังสรรค์เป็นงานสถาปัตยกรรม นำร่อง 4 สถานี ไฮไลต์จุดแรก อยู่ที่สถานีสนามไชยสถานีสุดท้าย ก่อนที่ขบวนรถไฟจะลงสู่อุโมงค์ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยเหตุผลที่ว่าตั้งอยู่ในเขตพระบรมมหาราชวัง จึงเป็นที่มาของแนวคิดการอนุรักษ์ให้สอดคล้องกับพื้นที่โดยรอบเกาะรัตนโกสินทร์

ทันทีที่ก้าวเข้ามาในสถานีสนามไชย ประตูโบราณจำลอง ซึ่งเคยเห็นแต่ในบ้านเรือนไทยสมัยก่อน ก็ถูกนำมาประดับที่ฝาผนัง  คุณผู้ชมจะได้สัมผัสกับบรรยากาศความเป็นไทยทุกจุด ไม่เว้นแม้แต่บริเวณพื้น ถูกออกแบบด้วยลวดลายดอกประจำยามถัดมาที่โถงทางเดิน ใช้เสาสดุมภ์ย่อมุมบัว ตั้งเรียงรายให้เห็นเป็นสง่า  ขณะที่ฝ้าเพดานตกแต่งลวดลายไทยลงสีทอง-บนฉากสีแดง  กลายเป็นภาพอลังการวิจิตรงดงามแบบไทยๆหวังสร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักเดินทาง ก่อนจะมุ่งหน้าสู่สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ อย่างพระบรมมหาราชวัง
             
ลวดลายการจัดเรียงที่วิจิตรและเหมาะสมถูกออกแบบใหม่ทั้งหมดด้วยฝีมือของศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ โดยมีแนวคิดอิงประวัติศาสตร์ หัวใจการออกแบบนอกจากจะต้องคำนึงถึงความสวยงามแล้ว ยังมีเงื่อนไขความคงทน และการเลือกใช้วัสดุทนไฟเป็นข้อจำกัดอีกด้วย

ไฮไลต์อีกจุดที่โดดเด่นไม่แพ้กัน อยู่ที่สถานีวัดมังกรกมลาวาส ถนนเจริญกรุง ด้วยทำเลที่ตั้งซึ่งรายล้อมด้วยชุมชนชาวจีน ย่านเยาวราช นับตั้งแต่ทางเข้าสถานี จึงถูกออกแบบให้เป็นตึกแถวแบบชิโนโปรตุกิส ยุโรปผสมจีน เพื่อให้เกิดความกลมกลืนและสอดคล้องกับวิถีชีวิต ตามมติของคณะกรรมการเกาะกรุงรัตนโกสินทร์และกรมศิลปากร

และนี่คือด้านในของสถานีวัดมังกรกมลาวาส มังกรซึ่งถือเป็นสัตว์เทพเจ้า และเป็นชื่อเดียวกับวัดมังกรกมลาวาส ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ปรากฏอยู่บนฝ้าเพดาน บริเวณห้องจำหน่ายตั๋ว ส่วนผนัง ถูกตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิค ลายดอกบัว ซึ่งเป็นลายเดียวกับที่เห็นภายในวัดมังกร มาดูกันที่เสา ทุกต้นประดับด้วยแผ่นเหล็กสีแดง คาดลายประแจจีนเฉดสีทอง  ซึ่งเป็นสีมงคลของชาวจีนนั่นเอง

นอกเหนือไปจากความต้องการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมแล้ว งานออกแบบทั้งหมด ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นแลนด์มาร์คและแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานครด้วย

ทีมงานจะเริ่มลงมือตกแต่งภายในหลังก่อสร้างงานระบบแล้วเสร็จไม่เกินกลางปีหน้า และคาดว่าจะเปิดให้บริการประชาชนได้ยลโฉมสถานีรถไฟฟ้าที่สวยงามที่สุดในประเทศไทย ต้นปี 2562

จับตาอีก 2 สถานีที่เหลือ ซึ่งถูกออกแบบให้เข้ากับบริบทของพื้นที่โดยรอบ โดยทีมสถาปนิคยักษ์ใหญ่ ประกอบด้วย สถานีวังบูรพา  ซึ่งเน้นสถาปัตยกรรมย้อนยุค สมัยรัชกาลที่ 5 บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของประตูคุกเก่า สามยอด และวังบูรพา เพื่อให้นักเดินทางได้ศึกษา  รวมถึงสถานีสุดท้าย ฝั่งธนบุรี สถานีอิสรภาพเน้นการตกแต่งโดยใช้รูปหงส์เป็นสัญลักษณ์  บ่งบอกถึงวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหารซึ่งเป็นวัดประจำชุมชน  และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์  ไม่เพียงเท่านี้ รถไฟฟ้าสายอื่นๆ ก็ยังมีแผนที่จะก่อสร้างภายใต้งานสถาปัตยกรรมที่วิจิตร ตอบโจทย์ให้ขนส่งมวลชนของไทย เป็นมากกว่าการเดินทาง