สาวยอมทุบบ้านจับ งูเห่าด่างพ่นพิษ หลังถูกพ่นพิษใส่หน้า ทำตาหวิดบอด

เช้านี้ที่หมอชิต - หญิงสาวแจ้งเจ้าหน้าที่มาทุบพื้นบ้านจับตัวงูเห่า หลังเคยพบเมื่อปีที่แล้ว ครั้งนั้นถูกพ่นพิษใส่หน้าทำตาหวิดบอด มาครั้งนี้ไม่ทน สั่งทุบพื้นทันที หวั่นเกิดอันตรายอีก

เจ้าหน้าที่อาสาสมัครพิทักษ์งู จังหวัดอ่างทอง นำกำลังพร้อมเครื่องมือเข้าไปทุบพื้นปูน บริเวณบ้านของ นางสาวจุฑามาศ แตงทองคำ เจ้าหน้าที่ห้องพยาบาลโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง หลังได้รับการประสานว่าพบงูเห่าพ่นพิษอยู่ภายในบ้าน เกรงว่าจะเกิดอันตราย

หลังเจ้าหน้าที่ทุบพื้นปูนไปได้ส่วนหนึ่งแล้ว ก็เห็นหัวงูเห่าอยู่ใต้พื้นซึ่งมีลักษณะเป็นโพรง จึงพยายามหาวิธีที่จะนำตัวงูออกมา

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทุบพื้นปูนต่ออีก โดยเฉพาะบริเวณที่พบงูซุกตัวอยู่ด้านล่าง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง จนในที่สุดก็สามารถจับงูตัวดังกล่าวได้ พบว่าเป็นงูเห่าด่างพ่นพิษ ยาวกว่า  2 เมตร ก่อนนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ

เจ้าของบ้าน บอกว่า เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ก็เพิ่งพบงูเห่าเลื้อยอยู่หน้าบ้าน ซึ่งตอนนั้นกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ โดยตอนที่งูเห่าเลื้อยออกมานั้น มีสุนัข 2 ตัวที่เลี้ยงไว้ในบ้านพยายามเห่าไล่

ส่วนเธอเพิ่งกลับมาถึงบ้านพอดี ไม่ทันเห็นงู แต่ได้ยินสุนัขเห่าไล่ไม่หยุด พอเธอหันไปดูก็เห็นงูเห่ากำลังแผ่แม่เบี้ย ทำให้ตกใจแทบช็อก และจังหวะนั้นเธอก็ถูกงูเห่าพ่นพิษใส่หน้า เคราะห์ดีที่ใส่แว่น จึงไม่กระเด็นเข้าตา จากนั้นงูตัวดังกล่าวก็เลื้อยลงไปในช่องข้างบ้านและหายไป

นางสาวจุฑามาศ บอกว่า หลังผ่านมาเกือบปี เมื่อวานนี้ (3 ก.พ.) เจองูเห่าอีกครั้ง จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือทันที เพราะกลัวว่าจะเกิดอันตราย

สำหรับงูเห่าที่พบคือ งูเห่าด่างพ่นพิษ เป็นหนึ่งในงูเห่าพ่นพิษสยาม ตามลำตัวมีสีดำและขาวคละกันไป ไม่มีรูปแบบที่แน่นอน สามารถพ่นพิษได้ไกล 5-8 เมตร เมื่อพ่นน้ำพิษหมดแล้ว สามารถผลิตน้ำพิษได้ในเวลา 10 นาที ก็สามารถพ่นน้ำพิษใหม่ได้ จัดเป็นงูพิษที่อันตรายชนิดหนึ่ง