Green Report : ตุ๊กแกหางอ้วน สัตว์เลี้ยงแนวใหม่

เช้านี้ที่หมอชิต - กรีนรีพอร์ตวันนี้ ชมสัตว์แปลก "ตุ๊กแกหางอ้วน" กำลังเป็นที่นิยมเลี้ยงในบ้านเรา ติดตามกับคุณกมลาสน์ เอียดศรีชาย

ณัฐภัทร หรือ น้องกานต์ บัณฑิตจบใหม่ เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เพาะพันธุ์ตุ๊กแกหางอ้วนในประเทศไทย เริ่มจากการนำเข้าจากต่างประเทศแบบถูกต้องตามกฏหมาย จนมีพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มากกว่า 20 ตัว และปัจจุบันสามารถเพาะพันธุ์เองได้มากกว่า 50 ตัวแล้ว

ตุ๊กแกหางอ้วน เป็นสัตว์สายพันธุ์แอฟริกา หลายคนเรียกมันว่าตุ๊กแกหน้ายิ้ม ด้วยหน้าตาที่มองหน้าตรงเหมือนกำลังยิ้ม และมีลักษณะเชื่องช้า ผิวหนังไม่สากเหมือนตุ๊กแกบ้านเรา มีไฮไลต์สำคัญอยู่ที่หางอ้วน ๆ ที่สะสมไขมันเอาไว้นี่แหละ

ความแตกต่างของตุ๊กแกพันธุ์ไทย กับตุ๊กแกหางอ้วน นอกจากหางที่อ้วนใหญ่ มันยังไม่มีเสียงร้อง "อั๊บแอ้" เหมือนตุ๊กแกบ้านเรา ส่วนตีนจะไม่มีพังผืดไว้ยึดเกาะ เพราะมันเป็นสัตว์ที่ต้องเลี้ยงบนพื้น หรือตามซอกอิฐ และอีกส่วนที่ต่างคือ เปลือกตา เปิด-ปิด หรือกระพริบตาได้เหมือนคน ผิดกับตุ๊กแกบ้านเราที่ตาเบิกโพลงตลอดเวลา ถึงแม้ว่ามันจะกำลังหลับก็ตาม

ตุ๊กแกหางอ้วน ผสมพันธุ์ปีละครั้ง มีข้อจำกัดคือ เป็นสัตว์หากินกลางคืน เพราะฉะนั้นผู้เลี้ยงต้องมีเวลาช่วงกลางคืน อย่างน้อยซักครึ่งชั่วโมงในการทำความสะอาด หาแมลงกิน 2-3 วันครั้งก็เพียงพอ

ส่วนราคาไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาด แต่ขึ้นอยู่กับความสวยงามของลวดลาย โดยธรรมชาติต้องมีสีน้ำตาล ส่วนสีอื่น ๆ เกิดจากการผสมสีระหว่างพ่อแม่พันธุ์ อย่างตัวนี้ ตัวละ 35,000 บาท

สัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เปิดเผยว่า สัตว์ชนิดนี้สามารถนำเข้ามาเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงได้ เนื่องจากไม่ได้เป็นสัตว์หายากของโลก หรือติดเงื่อนไขกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งสิ่งที่ต้องระมัดระวัง คือการเลี้ยงต้องเป็นไปตามชีววิทยาของสัตว์ และเป็นสัตว์อายุยืน ต้องดูแลระยะยาว

ถึงแม้มันจะทนต่อสภาพอากาศในบ้านเราได้ แต่มันหากินเองตามธรรมชาติไม่ได้ หากปล่อยมันไปมันอาจอดตาย และความเชื่องช้าของมันอาจทำให้มันตกเป็นเหยื่อของสัตว์ผู้ล่าได้อย่างง่ายดาย เพราะปัญหาสิ่งแวดล้อมรอไม่ได้