จุฬาฯ ทำสำเร็จ ใช้สุนัขดมกลิ่นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19

เคลียร์ข่าวชัด 7HD - ในอดีตเราจะคุ้นกับสุนัขดมกลิ่น ช่วยตำรวจหายาเสพติดที่ซุกซ่อนอยู่ แต่ล่าสุด สุนัขสามารถดมกลิ่นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการได้แล้ว เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ด้วยการทำวิจัยของคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และภาคเอกชน โดยมีความแม่นยำเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์

โครงการวิจัย การใช้สุนัขดมกลิ่น ตรวจหาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ จะฝึกสุนัขลาบาดอร์ รีทรีฟเวอร์ 6 ตัว ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีโพรงจมูกยาว มีประสาทสัมผัสรับรู้กลิ่นไว ที่สำคัญเป็นสุนัขใจดี เป็นมิตรกับคนด้วย โดยทั้ง 6 ตัว ก็จะถูกฝึกเป็นเวลา 2 เดือน

ขณะเดียวกัน ทีมวิจัยจะเก็บตัวอย่างเหงื่อของผู้ติดเชื้อ บริเวณใต้รักแร้ ด้วยสำลี หรือใช้ถุงเท้าที่ผ่านการสวมใส่แล้ว จากนั้นนำไปเก็บในห้องปฏิบัติการ ที่มีความปลอดภัยทางชีวภาพ

โดยช่วงการทดสอบ จะนำตัวอย่างเหงื่อของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ใช้สำลีซับไว้ และถุงเท้า ไปยัดใส่กระป๋องวางไว้เดี่ยว ๆ และแบบรวมกัน 6 กระป๋อง มีทั้งเหงื่อคนที่ไม่ติดเชื้อ คนติดเชื้อ กระป๋องเปล่า และขวดแก้วใส่แท่งสำลีเปล่าปนกันไป ซึ่งถ้ากระป๋องที่มีเหงื่อของผู้ติดเชื้ออยู่ในนั้น สุนัขจะวิ่งไปดม พร้อมกับนั่งลงทันที ถ้าถูกกระป๋อง เจ้าหน้าที่ที่ใส่ชุด PPE จะยกนิ้วโป้งให้ เป็นอันว่าถูกต้อง แม่นยำ

สัตวแพทย์หญิงเกวลี ฉัตรดรงค์ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัยฯ ระบุว่า สุนัขสามารถดมกลิ่นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้อย่างแม่นยำกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ จากนี้จะลองนำสุนัขที่ฝึกแล้ว ไปทดสอบตามสนามบิน ท่าเรือ หรือสถานที่ท่องเที่ยว ช่วยคัดกรอง ซึ่งข้อดีคือ จะคัดกรองคนป่วยที่ไม่มีอาการได้ เพราะคนไม่มีอาการ ก็จะไม่มีไข้ เครื่องวัดอุณหภูมิก็ตรวจจับไม่เจอความผิดปกติ แต่สุนัขจะรู้

ถ้าจะนำสุนัขที่ฝึกไปใช้งานจริง หลายคนสงสัยว่า ให้สุนัขไปเดินดมกลิ่นเหงื่อคนเลยได้ไหม ทางหัวหน้าผู้วิจัย บอกว่า ยังต้องใช้วิธีเก็บตัวอย่างเหงื่อมาให้สุนัขดมอยู่ เพราะถ้าไปดมเหงื่อจากตัวโดยตรง อาจทำให้เชื้อโควิด-19 ติดจมูกสุนัข แล้วเอาไปติดคนอื่นที่ไม่มีเชื้อก็ได้ แต่ย้ำว่าการทดสอบทั้งหมดตอนนี้ ทั้งสุนัขและเจ้าหน้าที่ปลอดภัย ไม่ติดเชื้อแน่นอน และนี่ถือเป็นต้นแบบการฝึกสุนัข เพื่องานทางการแพทย์ชุดแรกของไทยด้วย