คนร้ายลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน ยิงถล่มซ้ำผู้นำศาสนาเสียชีวิต
เช้านี้ที่หมอชิต - คนร้ายลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน ยิงถล่มรถผู้นำศาสนาพรุนทั้งคัน ทำให้เจ้าตัวเสียชีวิต ล่าสุดเจ้าหน้าที่เผยอาจเป็นการยิงผิดตัว เพราะใช้รถคล้ายกัน
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.00 น.วานนี้ (6 เม.ย.) บนถนนสายบ้านควนลาแม-บ้านคลองช้าง พื้นที่หมู่ 4 ตำบลนาเกตุ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี โดยตำรวจ และทหาร ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเก็บรวบรวมหลักฐานเป็นปลอกกระสุนปืนบนพื้นถนน
โดยพบเสาไฟฟ้าส่องสว่างล้มขวางอยู่กลางถนน มีร่องรอยจากแรงระเบิดเป็นหลุมลึก ขนาดกว้าง 30 เซนติเมตร มีความลึกประมาณ 40 เซนติเมตร
ตรวจสอบใกล้กัน พบรถเก๋ง สีบรอนซ์เงิน หมวดป้ายทะเบียนจังหวัดปัตตานี ตกข้างทางเข้าไปในสวนยางพาราของชาวบ้านได้รับความเสียหาย มีร่องรอยถูกยิงเป็นรูพรุนฝั่งประตูด้านข้างคนขับกว่า 30 แห่ง
ขณะที่ภายในรถ พบร่าง นายรอมลี วาเงาะ อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นคนขับและมีตำแหน่งเป็นโต๊ะบิหลั่น ประจำมัสยิดแห่งหนึ่ง ถูกยิงเสียชีวิต
เหตุการณ์เกิดขึ้น ขณะที่ นายรอมลี ขับรถกลับจากมัสยิดเพียงคนเดียว โดยมุ่งหน้าไปหาพี่สาว เมื่อถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายไม่ทราบจำนวนที่ซุ่มอยู่ได้กดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ฝังไว้ใต้ดิน เพื่อโค่นล้มเสาไฟฟ้าเกิดเสียงระเบิดดังสนั่น จนรถเสียหลักตกข้างทาง ก่อนจะถูกคนร้ายที่ซุ่มอยู่ในป่าท่ามกลางความมืดออกมายิงถล่มซ้ำทำให้เสียชีวิต และหลบหนีไป ท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของชาวบ้าน แต่ก็ไม่กล้ามีใครออกมาดู
ขณะที่ พลตรี คมกฤช รัตนฉายา ผู้บัญชาการหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี บอกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความสะเทือนใจต่อพี่น้องมุสลิมเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นผู้นำศาสนาในพื้นที่และเป็นที่รู้จักนับถือของชาวบ้าน
โดยได้รับรายงานว่า ผู้เสียชีวิตไม่ใช่เป้าหมายของกลุ่มคนร้าย แต่เนื่องจากใช้รถเก๋งซึ่งเหมือนกับรถของเจ้าหน้าที่รัฐนายหนึ่ง ที่เป็นเป้าหมายของคนร้ายทำให้เป็นการยิงผิดตัว และแม้ว่าจะเป็นการลอบทำร้ายผู้นำศาสนา หรือจะเป็นการยิงผิดตัวก็ตาม เจ้าหน้าที่รัฐและฝ่ายความมั่นคงจะไม่ยอมให้ผู้ก่อเหตุลอยนวลไปได้อย่างแน่นอน
โดยหลังเกิดเหตุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สนธิกำลังร่วมปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่อย่างละเอียด พร้อมเร่งสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบหาความเชื่อมโยงกับแฟ้มประวัติคดีความมั่นคงว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด เชื่อว่าน่ารู้ผลภายใน 2-3 วันนี้ เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่
