ชาติสมาชิกอียู จำกัดการใช้วัคซีนแอสตราเซนเนกา

เช้านี้ที่หมอชิต - ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ อียู บางส่วน จำกัดการใช้วัคซีนแอสตราเซนเนกา โดยใช้เฉพาะกับประชาชนบางกลุ่มอายุเท่านั้น ขณะที่หลายประเทศระงับการใช้วัคซีนชั่วคราว หลังจากที่บรรดารัฐมนตรีสาธารณสุขของกลุ่มสมาชิกอียู ไม่สามารถลงมติเห็นพ้องต้องกันเกี่ยวกับแนวทางการใช้วัคซีนของแอสตราเซนเนกา

ขณะที่ สำนักงานยาแห่งยุโรป หรือ อีเอ็มเอ ได้รับรายงานว่า ในจำนวนประชากรที่เข้าฉีดวัคซีนของแอสตราเซนเนกา ในพื้นที่อียู รวม 34 ล้านโดส พบประชาชน 169 คน ที่มีอาการลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดสมอง โดยพบมากที่สุดในกลุ่มสตรีที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี และพบในช่วง 2 สัปดาห์หลังการฉีดวัคซีน ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า จะเกิดปัญหาลิ่มเลือดผสมกับปัญหาเกล็ดเลือดต่ำในกลุ่มผู้ได้รับวัคซีนดังกล่าว ภายใน 2 สัปดาห์หลังการฉีด

ทั้งนี้ ฝรั่งเศสอนุญาตให้กลับมาฉีดวัคซีนแอสตราเซนเนกา อีกครั้งเมื่อวันที่ 19 มีนาคม แต่ฉีดให้เฉพาะประชาชนอายุ 55 ปีขึ้นไปเท่านั้น ส่วน เยอรมนีไม่ฉีดวัคซีนแอสตราเซนเนกา ให้ประชาชนที่อายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ส่วนประชาชนที่อายุต่ำกว่า 60 ที่เคยฉีดวัคซีนแอสตราเซนเนกาเข็มแรกแล้ว ควรฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ของยี่ห้ออื่น

อังกฤษ ระบุ ให้ฉีดวัคซีนแอสตราเซนเนกา ให้ประชาชนที่อายุต่ำกว่า 30 แต่ใครก็ฉีดวัคซีนตัวนี้เข็มแรกไปแล้ว ควรฉีดต่อในเข็มที่ 2 ขณะที่ อิตาลี, สเปน และฮอลแลนด์ แนะนำให้ฉีดวัคซีนแอสตราเซนเนกา เฉพาะประชาชนอายุ 60 ปีขึ้นไป

ด้านประเทศเดนมาร์ก ประกาศขยายเวลาระงับฉีดวัคซีนแอสตรา ไปอีก 3 สัปดาห์ หลังจากระงับการฉีดวัคซีนแอสตราเซนเนกา ครั้งแรก 2 สัปดาห์ โดยกำหนดเวลาสิ้นสุดตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา