เปิดแผนฉีดวัคซีนโควิด-19 ไม่กระทบ ภูเก็ต แซนด์บอกซ์

ประเด็นเด็ด 7 สี - แผนจัดหาและกระจายฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับคนไทย มีผลโดยตรงกับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่กำหนดไว้ในเดือนกรกฎาคม แนวโน้มจะยังเดินหน้าได้ตามเดิมหรือไม่ ติดตามจากรายงานของคุณสมจิตต์ นวเครือสุนทร

หลังโควิด-19 พ่นพิษรอบ 3 หลายแผนที่เตรียมไว้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความหวังเดียวที่จะพาเศรษฐกิจไทยรอด โดยเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวคือการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งก่อนหน้านี้มีการกำหนดให้จังหวัดภูเก็ตเป็นพื้นที่นำร่อง เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้วเข้ามาเที่ยวไทยได้ โดยไม่ต้องกักตัว เริ่มต้นเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ตก็เตรียมความพร้อมเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่ให้ได้ 70 % เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ กระตุ้นเศรษฐกิจบนความปลอดภัยของชาวบ้าน

เมื่อเกิดการระบาดระลอกใหม่ จึงมีความกังวลจาก นางเชิญพร กาญจนสายะ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต ว่า รัฐบาลจะจัดส่งวัคซีนมาได้ไม่ทันในเดือนพฤษภาคม ที่ต้องเริ่มทยอยฉีดให้ประชาชนให้ครบ 300,000 โดส ซึ่งหากล่าช้าออกไปก็จะกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยในขณะนี้ฉีดวัคซีนให้ชาวภูเก็ตไปแล้วกว่า 100,000 คน

ด้าน นายแพทย์โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ให้ความมั่นใจว่า รัฐบาลยังคงปฏิบัติตามแผนฉีดวัคซีน โดยในส่วนของภูเก็ตยังเป็นไปตามกำหนด เพื่อไม่ให้กระทบกับการนำร่องเปิดการท่องเที่ยว

สำหรับแผนการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ รัฐบาลมีเป้าหมายฉีดให้ประชาชน 50 ล้านคน เพื่อครอบคลุมประชากร 70 % ต้องใช้วัคซีนจำนวน 100 ล้านโดส ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยจัดหาวัคซีนไว้ตามแผนเดิม 63 ล้านโดส จาก 2 ยี่ห้อคือ ซิโนแวค และแอสตราเซเนกา ต้องจัดซื้อเพิ่มเติม 37 ล้านโดส แบ่งเป็นภาครัฐ 30 ล้านโดส ภาคเอกชน 7 ล้านโดส ภาครัฐจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ 5-10 ล้านโดส สปุตนิค วี 5-10 ล้านโดส จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน 5-10 ล้านโดส และซิโนแวค 5-10 ล้านโดส

ในขณะที่ภาคเอกชนจัดซื้อวัคซีนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ให้บริการในภาครัฐ ได้แก่ โมเดิร์นนา หรือ ซิโนฟาร์ม หรือวัคซีนอื่นที่จะมีการขึ้นทะเบียนในอนาคต เพื่อเป็นวัคซีนทางเลือก นอกเหนือจากที่รัฐบาลจัดหาให้

ทั้งนี้มีการคาดว่าหากทั้งภาครัฐและเอกชน สามารถจัดหาวัคซีนได้ตามกำหนด คือ ไม่เกินไตรมาส 4 ประชาชน 70 % น่าจะทยอยได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 ภายในเดือนตุลาคม และเข็มที่ 2 ภายในเดือนธันวาคมปีนี้ ประเทศไทยจะรบชนะไวรัสร้ายได้หรือไม่ นอกจากวัคซีนที่ต้องเร่งกระจายฉีดให้เร็วแล้ว ยังขึ้นอยู่กับการควบคุมโรคให้อยู่ในวงจำกัดโดยเร็วที่สุดด้วย