ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

เคลียร์ให้ชัด! ทำไมต้องรีบเผาศพเหยื่อโควิด-19

เคลียร์ข่าวชัด 7HD - ร่างเหยื่อโควิด-19 ทำไมต้องรีบเผา เคลียร์ให้ชัด มีคำตอบ

ผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ตอนนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อวานนี้สูงสุด คือ 31 คน โดยร่างผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จะถูกนำไปฌาปนกิจทันที โดยไม่มีการสวดพระอภิธรรม เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 จากสารคัดหลั่งที่ไหลออกมาจากร่างกาย หรือที่เรียกว่า ทวารทั้ง 7 นั่นเอง

ดังนั้นทาง กรมควบคุมโรค สถาบันพยาธิวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกแนวทางปฏิบัติสำหรับศพผู้ติดเชื้อโควิด-19 ไว้ 5 แนวทาง ให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติ โดยเน้นย้ำให้ควบคุมสารคัดหลั่ง โดยเก็บศพไว้ในถุงซิปกันน้ำอย่างน้อยสองชั้น และใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคทาด้านนอกถุงเก็บศพ ห้ามเปิดถุงเก็บศพโดยเด็ดขาด ไม่มีการอาบน้ำศพ รดน้ำศพ และฉีดยารักษาศพ และต้องบรรจุศพพร้อมถุงลงในโลงศพ และปิดฝาโลงให้สนิท ญาติสามารถนำศพไปทำพิธีกรรมทางศาสนาได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการเผาหรือฝังศพ จะไม่ก่อให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อ

แล้วเจ้าหน้าที่เขาจัดการกับศพอย่างไร เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอน ที่เรียกว่า ดูแลร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมศักดิ์ศรี แต่ละที่จะใช้ทีมแพทย์ที่มีความชำนาญในเรื่องโรคติดเชื้อ ซึ่งมีการซักซ้อมการจัดการเรื่องนี้เป็นระยะ ๆ สำหรับผู้ป่วยโรคติดต่ออันตราย ที่เสียชีวิตแบบนี้

โดยก่อนจะจัดการศพ เจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลร่างผู้เสียชีวิต ต้องสวมใส่เครื่องป้องกันตัวอย่างสมบูรณ์ตามมาตรฐานสากล ก่อนจะนำร่างผู้เสียชีวิตไปชุบแอลกอฮอล์ 70% พ่นฆ่าเชื้อทุกด้าน ทุกซอก และด้านหลังของร่างผู้เสียชีวิตเพื่อให้สะอาดที่สุด และใช้สำลีชุบน้ำยาแอลกอฮอล์อุดตามอวัยวะทวารต่าง ๆ โดยไม่มีการฉีดน้ำยารักษาศพ เหมือนศพทั่ว ๆ ไป

จากนั้นจะบรรจุร่างในถุงซิปหนา 2-3 ชั้น โดยถุงแต่ละชั้นก็ต้องมีการฉีดน้ำยาแอลกอฮอล์ 70% พ่นฆ่าเชื้อด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันเชื้อไม่ได้ไหลออกมาได้ แต่ละชั้นที่สวมถุงศพ เจ้าหน้าที่จะต้องสเปรย์แอลกอฮอล์พ่นฆ่าเชื้อที่ถุงซิป ตั้งแต่รูดซิปชั้นที่ 1 จากนั้นต้องออกจากห้อง ถอดชุดป้องกัน ถอดถุงมือออกไปทำความสะอาดร่างกาย แล้วกลับมาบรรจุร่างใส่ถุงซิปชั้นที่ 2 และทำซ้ำแบบเดียวกันในการบรรจุร่างใส่ถุงซิปชั้นที่ 3 เพื่อให้มั่นใจว่าถุงซิปชั้นที่ 2 และ 3 ไม่มีโอกาสที่จะมีเชื้อโรคเลย เมื่อนำร่างใส่ถุงเรียบร้อย ก็จะนำร่างไปแช่แข็ง ที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส ก่อนจะแจ้งให้ญาติมารับศพไปดำเนินการตามขั้นตอนทางศาสนา

ส่วนขั้นตอนการเผาศพ ทำกันอย่างไร

การจัดการร่างผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ช่วงนี้ จะไม่มีการสวดพระอภิธรรม หรือเปิดศพให้ญาติได้ดูเพื่ออำลาครั้งสุดท้าย เหมือนการเผาศพปกติ ดังนั้นเมื่อรถนำศพออกจากโรงพยาบาล จะมุ่งไปที่เมรุเผาศพตามวัดที่ได้มีการประสานไว้ล่วงหน้า และเคลื่อนโลงบรรจุศพ เข้าไปในเตาเผาทันที ไม่มีพิธีกรรมใด ๆ รวมถึงการปลงศพ

โดยจะดำเนินการเผา โดยใช้ระบบความคุมความร้อนสูงที่ 850 องศาเซลเซียส บางแห่งอาจสูง 1,000 องศาเซลเซียส เพื่อให้ความร้อนเผาทั้งวัสดุห่อหุ้ม ร่างกาย และกระดูก ซึ่งความร้อนสูงนี่เองที่จะฆ่าเชื้อโรค ไม่ให้แพร่กระจายได้อีก

ส่วนการจัดการร่างผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่ไม่ใช่ในโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู บอกว่า จะต้องสอบสวนโรคอย่างละเอียด ถ้ายืนยันว่าเสียชีวิตเพราะโควิด-19 จะต้องใช้ทีมเจ้าหน้าที่และรถเฉพาะที่ได้รับการอบรมขั้นตอนปฏิบัติเป็นอย่างดี

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จะสวมชุดป้องกันแน่นหนา ก่อนจะเข้าไปสัมผัสร่างผู้เสียชีวิต และจะทำการพ่นแอลกอฮอล์ น้ำยาฆ่าเชื้อรอบ ๆ บริเวณ รวมทั้งร่างผู้เสียชีวิต ก่อนจะยกใส่ถุงซิปชั้นแรก และพ่นยาฆ่าเชื้อ ทำเช่นนี้จนครบ 3 ชั้น เพื่อนำไปบรรจุใส่โลง นำไปยังวัดที่ประสานไว้ ทำตามขั้นตอนที่บอกไปก่อนน้านี้

ไม่ว่าจะเสียชีวิตที่บ้าน หรือนอกบ้าน หรือโรงพยาบาล มูลนิธิร่วมกตัญญู ยืนยันว่า ทุกศพจะได้รับการดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติและให้เกียรติแก่ผู้วายชนม์ ทั้งป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่น รวมทั้งตัวผู้ปฏิบัติงานเองด้วย

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark