ทะลักไม่หยุด แรงงานเมียนมา-กัมพูชา เข้าไทย
เช้านี้ที่หมอชิต - ทหารจับแรงงานชาวเมียนมา 50 คน ลักลอบเข้าเมืองฝั่งจังหวัดเพชรบุรี เตรียมส่งออเดอร์ตามใบสั่งเข้าทำงานโรงงานปลากระป๋อง ย่านมหาชัย
ทหาร พร้อมเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ฝ่ายปกครองและตำรวจ จับกุมแรงงานชาวเมียนมาชายและหญิง จำนวน 50 คน ลักลอบเข้าเมืองตามแนวชายแดนช่องทางธรรมชาติใกล้ช่องวังเป้า บ้านน้ำโจน ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างที่ทั้งหมดกำลังเดินลัดเลาะแนวป่า เพื่อไปจุดนัดหมายที่เป็นถนนลูกรัง ก่อนจะรอขึ้นรถของนายหน้าที่มารับ พาไปทำงานในโรงงานทำปลากระป๋องแห่งหนึ่ง ย่านมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร
หลังจับกุม เจ้าหน้าที่ควบคุมแรงงานทั้ง 50 คน แบ่งเป็น ชาย 31 คน และหญิง 19 คน ไปคัดกรองโควิด-19 ก่อนนำไปกักตัว 14 วัน ที่กองร้อย ตชด.ที่ 146 และผลักดันกลับเมียนมา
ทั้งนี้ แรงงานชาวเมียนมา บอกว่า เดินทางมาจากเมืองย่างกุ้ง และเมาะลำไย โดยมีนายหน้าติดต่อให้ไปทำงานในโรงงานปลากระป๋อง ที่จังหวัดสมุทรสาคร
ขณะที่บางส่วนจะถูกส่งตัวไปทำงานที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กระบี่ และสุราษฎร์ธานี โดยใช้เวลาเดินเท้าข้ามสันเขากว่า 2 วัน 2 คืน จนถึงช่องทางธรรมชาติเข้าไทย ซึ่งมีนายทุนฝั่งเมียนมาโทรศัพท์แจ้งนัดหมายผู้ร่วมขบวนการ ให้นำรถยนต์มารอรับเพื่อส่งไปยังเป้าหมายโรงงานต่าง ๆ
ทั้งนี้ แหล่งข่าวด้านความมั่นคงชายแดนไทย-เมียนมา เผยว่า กลุ่มแรงงานเมียนมาที่จับกุมได้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ จนถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่มาจากนายทุนชาวเมียนมา ฉายาในวงการค้าแรงงานเถื่อนว่า "มิมิแง" ซึ่งพักอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ หากแรงงานคนใดเดินทางไปที่เป้าหมาย นายทุนโรงงานจะจ่ายเงินให้ค่านายหน้ากับขบวนการ โดยหักจากค่าแรงรายวันต่อหัว วันละ 50-100 บาท ตลอดระยะเวลาการทำงาน ซึ่งถือว่าเข้าข่ายการค้ามนุษย์
ส่วนที่ จังหวัดสระแก้ว ทหารกองกำลังบูรพาจับกุมแรงงานชาวกัมพูชาได้ 23 คน บริเวณแนวชายแดนบ้านทัพเซียม อำเภอตาพระยา ขณะเดินเท้าเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ โดยคุมตัวทั้งหมดมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมผลักดันกลับประเทศต่อไป
ขณะที่ หนึ่งในแรงงาน บอกว่า จ่ายเงินให้นายหน้าคนละ 4,000-5,000 บาท โดยเดินเท้าจากอำเภอสวายเจ็ก จังหวัดบันเตียเมียนเจย ลัดเลาะหลบหลีกเจ้าหน้าที่ทั้งฝั่งกัมพูชาและฝั่งไทย ก่อนข้ามเข้าไทย โดยมีนายหน้าคนไทยมารอรับไปทำงานในจังหวัดต่าง ๆ ทั้งกรุงเทพฯ สมุทรปราการ และภาคตะวันออก