ครู รร.เอกชน ยังไม่แจ้งความเงินหาย หลังถูกรถเบียดตกข้างทาง สลบข้ามคืน

เช้านี้ที่หมอชิต - ครูโรงเรียนเอกชน จังหวัดบุรีรัมย์ ยังไม่แจ้งความถูกรถเบียดจักรยานยนต์ตกข้างทาง สลบข้ามคืน ถูกฉกเงินหาย 120,000 บาท

จากกรณีตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณใกล้สะพานบ้านม่วง ตำบลชุมเห็ด พื้นที่ตัวเมืองจังหวัดบุรีรัมย์ พบหญิงอายุ 40 ปี เป็นครูโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง อยู่ในสภาพเสื้อผ้าและเนื้อตัวเปื้อนดิน แต่ไม่มีบาดแผลใด ๆ โดยเจ้าตัวนั่งอยู่ข้างทางเพื่อรอการช่วยเหลือ ซึ่งเธอให้การว่า หลังเลิกงานที่โรงเรียนได้ขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านที่ตำบลพระครู แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ มีรถยนต์คันหนึ่งขับเบียด ทำให้รถเสียหลักตกข้างทาง จากนั้นเธอก็สลบไป จนมารู้สึกตัวอีกทีตอน 06.00 น.ของวันที่ 8 มิถุนายน จึงโทรศัพท์ให้แฟนมาช่วยเหลือนำรถขึ้นจากข้างทาง และเมื่อสำรวจทรัพย์สินในกระเป๋า พบว่าเงินสดจำนวน 120,000 บาทที่เตรียมนำไปฝากธนาคารได้สูญหายไป ตามที่ทางรายการได้นำเสอนข่าวไปแล้วเมื่อช่วงเช้าวานนี้ ขณะที่แฟนหนุ่มของเธอเชื่อว่าน่าจะเป็นการชิงทรัพย์ แต่เมื่อทีมข่าวเข้าไปสอบถามหญิงผู้ประสบเหตุกับมีท่าทีรีบร้อน อ้างว่าติดธุระ และไม่สะดวกให้ข้อมูลใด ๆ

ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวานนี้ ทีมข่าวได้สอบถามกรณีที่เกิดขึ้นกับตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุ ได้รับแจ้งคำตอบว่า ผู้เสียหายดังกล่าว ยังไม่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ก่อเหตุชิงทรัพย์เงินในกระเป๋าที่หายไปแต่อย่างใด

โดย พันตำรวจเอก ศิริวัฒน์ สมกิจศิริ ผู้กำกับการ สภ.เมืองบุรีรัมย์ บอกว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำสามีของผู้ประสบเหตุให้ข้อมูลว่า เงินจำนวน 120,000 บาท ที่ฝากภรรยานำไปเข้าธนาคารได้หายไปจริง แต่ยังไม่ได้ซักถามรายละเอียดจากภรรยาว่าเก็บเงินไว้อย่างไร หรืออาจนำไปลืมไว้ที่อื่น

โดยหลังเกิดเหตุผู้ประสบเหตุยังอยู่ในอาการเบลอ อ่อนแรง และมึนงง ก่อนที่หน่วยอู้ชีพจะพาตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งเป็นการให้ถ้อยคำในเบื้องต้นเท่านั้นและจนถึงขณะนี้ก็ไม่ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์แต่อย่างใด ตำรวจจึงไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้ ส่วนจะเป็นการแจ้งให้ข้อมูลอันเป็นเท็จหรือไม่ ต้องขอเวลาตรวจสอบก่อน แต่หากผู้เสียหาย ยืนยันว่าเงินหายไปจริงก็สามารถมาแจ้งความในภายหลังได้

สำหรับคดีความผิดเกี่ยวกับการจราจร คือมีการเฉี่ยวชนกันจนรถจักรยานยนต์เสียหลักตกข้างทาง ก็ต้องรอผู้ประสบเหตุเข้ามาให้ข้อมูลกับตำรวจว่า มีคู่กรณีเฉี่ยวชนหรือเกิดประสบอุบัติเหตุด้วยตัวเอง หากยืนยันว่ามีรถเฉี่ยวชนก็จะได้เร่งติดตามหารถคู่กรณีเพื่อดำเนินการตามกระบวนการต่อไป