รายงานพิเศษ : คุมโควิด-19 ช่วงอีฎิ้ลอัดฮาชายแดนใต้

ประเด็นเด็ด 7 สี - ในช่วงเทศกาลวันอีฎิ้ลอัดฮา ชาวไทยมุสลิมใน 4 จังหวัดชายแดนใต้ จะมีพิธีทางศาสนา รวมตัวกันละหมาดในมัสยิดและอีกหนึ่งพิธีคือการรวมตัวกันล้มวัว เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ยากไร้ แต่ปีนี้จุฬาราชมนตรีประกาศให้งดละหมาดในมัสยิด และห้ามรวมตัวกันทำพิธีเกิน 7 คน ติดตามจากคุณอรรถพล ดวงจินดา

ประตูรั้วมัสยิดถูกปิดสนิท ป้ายห้ามเข้า และงดประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ถูกนำติดไว้หน้ามัสยิดทุกแห่ง หลังโควิด-19 วิกฤตอย่างหนักในจังหวัดชายแดนใต้ ทำให้การละหมาดภายในมัสยิดของพี่น้องชาวไทยมุสลิมต้องถูกงด ไม่ต่างจากเทศกาลสำคัญในสัปดาห์นี้ กับการละหมาดอีฏิ้ลอัดฮา ที่มัสยิดและทุกสถานที่ที่จัดเตรียมไว้ทั่วประเทศ ก็ถูกงดเช่นกัน โดยมีประกาศคำสั่งให้ไปละหมาดที่บ้านแทน เพื่อลดการแพร่เชื้อ

มาตรการนี้ถูกประกาศโดยสำนักจุฬาราชมนตรี ที่ออกประกาศกำหนดวันที่ 1 ของเดือนซุลฮิจเญาะฮ์ และอิดิลอัฎฮา ฮิจเราะห์ คริสต์ศักราช 1442 ตรงกับวันพุธที่ 21 กรกฎาคม 2564 โดยกำหนดให้คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดแจ้งมัสยิด ให้ชาวไทยมุสลิมละหมาดที่บ้าน แทนการเข้ามาละหมาดในมัสยิด

ส่วนการทำกุรบาน ที่จะนำวัวมาเชือดพลีทาน โดยแต่ละปีจะใช้วัวไม่ต่ำกว่า 300-400 ตัว ซึ่งปีนี้คณะกรรมการอิสลามจังหวัดยะลาระบุว่า อาจใช้วัวลดลงไม่ถึง 200 ตัว ตามสภาพเศรษฐกิจ และต้องมีมาตรการจำกัดผู้เชือดและผู้ชำแหละ รวมทั้งการแจกพลีทานหรือ กุรบาน จะไม่ให้รวมกลุ่มกันเกิน 7 คน และทุกจุดจะต้องลงทะเบียนเข้าพื้นที่ก่อน ทั้งนี้เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 ซึ่งพี่น้องชาวไทย-มุสลิม ล้วนขานรับมาตรการนี้