รายงานพิเศษ : เปิดคำรับสารภาพมือฆ่ารัดคอชิงทรัพย์แม่ค้าร้านขายของชำ

ประเด็นเด็ด 7 สี - ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาฆ่ารัดคอแม่ค้าร้านขายของชำ ในจังหวัดขอนแก่นไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว อ้างไม่ได้วางแผน แต่เห็นทรัพย์สินจึงลงมือฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ ด้านตำรวจเผยจากพยานหลักฐานพบก่อเหตุเพียงคนเดียว ก่อนนำรถกระบะของเหยื่อไปขายให้กับขบวนการโจรกรรมรถยนต์ข้ามชาติ ติดตามรายงานจากคุณสิริรัตน์ รัตนสิมานนท์

11 กรกฎาคม นางกันนิกา จำปา อายุ 44 ปี เจ้าของร้านขายของชำ ถูกพบเป็นศพในป่าละเมาะพื้นที่ตำบลบ้านเหล่า อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น หลังขับรถกระบะหายตัวออกจากบ้านนาน 2 วัน พร้อมเงินสด 100,000 บาท เมื่อตำรวจสืบสวนพบว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายประสิทธิ์ จาลา อายุ 56 ปี ซึ่งโทรศัพท์นัดหมายนางกันนิกาให้ไปรับ และอยู่กับเธอเป็นคนสุดท้าย ก่อนจะหายตัวไป

ขณะที่จากแนวทางการสืบสวน ตำรวจไล่ภาพจากกล้องวงจรปิด ติดตามเบาะแสรถกระบะของนางกันนิกา ซึ่งถูกนายประสิทธิ์นำไปขายไม่กี่ชั่วโมงหลังก่อเหตุฆาตกรรม จากนั้นรถถูกส่งต่อเป็นทอด ๆ จนถึงปลายทางที่จังหวัดสระแก้วในวันถัดมา แล้วถูกส่งมอบให้ชายชาวกัมพูชาคนหนึ่ง กระทั่งตำรวจตามไปรวบตัวได้ 5 คน พบทั้งหมดเป็นขบวนการโจรกรรมรถข้ามชาติรายใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันออก

ส่วนนายประสิทธิ์ที่หลบหนีไปกบดานในจังหวัดตาก ก็ถูกตำรวจตามไปรวบตัวไว้ได้ ขณะพยายามกินยาฆ่าตัวตายเพื่อหนีความผิด ก่อนถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล ผ่านมานานหลายวัน ล่าสุดวันนี้ (22 ก.ค.) เขาถูกคุมตัวกลับมาที่ สภ.บ้านฝาง ก่อนถูกนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว

จุดแรกบริเวณร้านสะดวกซื้อ ปากซอยศรีจันทร์ 39 ในอำเภอเมืองขอนแก่น นายประสิทธิ์นัดหมายให้นางกันนิกาขับรถกระบะมาหา ก่อนทำหน้าที่พลขับพาไปอีกจุด โดยออกอุบายสั่งซื้อเบียร์จากร้านให้นำมาส่งกลางทาง ระหว่างนั้นเขาทำทีจอดรถรอริมถนน แล้วย้ายไปนั่งที่เบาะหลัง สบโอกาสใช้เข็มขัดนิรภัยรัดคอนางกันนิกา ซึ่งนั่งอยู่บริเวณเบาะข้างคนขับ นานประมาณ 10 นาที จนเธอแน่นิ่ง ก่อนขับรถกระบะนำศพไปทิ้งห่างจากจุดเกิดเหตุราว 2 กิโลเมตร

จากการสอบถามผู้ต้องหา บอกว่า ทำไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ เพราะอยากได้ทรัพย์สิน โดยอ้างเงินสดในกระเป๋าผู้ตายมีจำนวน 40,000 บาท อีกส่วนหนึ่งนำรถไปขายได้ส่วนแบ่งอีกประมาณ 40,000 บาท จากนั้นนำเงินที่ได้ไปไถ่ถอนรถของตัวเองที่นำไปจำนำไว้ จ่ายหนี้และนำไปเล่นการพนัน ก่อนจะหลบหนี

ขณะที่ลูกสาวของผู้เสียชีวิต ยืนยันแม่พกเงินสดไปกว่า 100,000 บาท เพื่อเตรียมนำไปซื้อของ และไม่เชื่อว่านายประสิทธิ์จะก่อเหตุเพียงคนเดียว โดยอยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ด้านตำรวจเปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ได้วางแผนล่วงหน้า แต่เห็นทรัพย์สินจึงตัดสินใจลงมือฆ่า แล้วนำเงินไปไถ่ถอนรถตู้ที่นำไปจำนำไว้กับหนึ่งในผู้ต้องหาขบวนการโจรกรรมรถข้ามชาติ คนเดียวกับที่นำรถของนางกันนิกาไปขายให้

ทั้งนี้จากการรวบรวมพยานหลักฐาน ยังไม่พบว่ามีใครร่วมก่อเหตุฆาตกรรม เบื้องต้นแจ้งข้อหานายประสิทธิ์ตามหมายจับ ในความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตาย ก่อนคุมตัวไปขออำนาจศาลฝากขัง