|
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดเผย เตรียม ยื่น อย.ขยายกลุ่มให้วัคซีนซิโนฟาร์มในเด็ก
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดเผยอยู่ระหว่างเตรียมเอกสารวัคซีนโควิดซิโนฟาร์ม ยื่นขอขึ้นทะเบียนวัคซีนในเด็กกับ อย. ขยายกลุ่มให้วัคซีน ย้ำทุกคนต้องได้รับวัคซีน
วันนี้ 5 ส.ค. 2564 ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เปิดเผยในการชี้แจงข้อมูลการพัฒนาและคิดค้นสูตร“ตำรับยาน้ำเชื่อมฟาวิพิราเวียร์” สำหรับผลิตในโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ (Hospital preparation) ต้านเชื้อไวรัสสำหรับเด็ก และผู้ป่วยที่มีความลำบากในการกลืนยาเม็ด ตำรับแรกในประเทศไทย ถึงการขยายช่วงอายุผู้ได้รับวัคซีนซิโนฟาร์มในเด็กว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมเอกสาร เพื่อยื่นขอขึ้นทะเบียนวัคซีนในเด็กต่อคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) คาดหวังว่าน่าจะได้เร็วๆ นี้ เพราะที่ประเทศจีนต้นการผลิตได้ขยายกลุ่มการให้วัคซีนแล้ว เพียงรอเอกสารให้ครบถ้วน
ศ.นพ.นิธิ กล่าวต่ออีกว่า เรื่องการให้วัคซีนในเด็ก ถ้ามีคนใดคนหนึ่งใด คนหนึ่งไม่ได้ มันไปไม่รอด ทุกคนที่อยู่ในสังคมไทยควรได้วัคซีนอย่างรวดเร็ว และเยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะจะไปรอดพร้อมกัน สิ่งหนึ่งที่มีข้อมูลในต่างประเทศพบว่าผู้ติดเชื้อหลังจากได้รับวัคซีนครบแล้ว ก็เกิดจากผู้ที่ยังไม่ได้ฉีกวัคซีนนำมาแพร่ทั้งสิ้น สังคมจะอยู่ด้วยกันได้ โดยไม่มีการระบาดขึ้นอีก ต้องทำให้คนทุกกลุ่มได้รับวัคซีน สำหรับเด็กจะมีอาการน้อยเมื่อได้รับเชื้อ จึงเป็นผู้แพร่เชื้อต่อผู้อื่นได้ จำเป็นต้องได้รับวัคซีนด้วยเช่นกัน การศึกษาผลการฉีดในเด็กจะยากกว่าผู้ใหญ่ ปัจจุบันมีวัคซีนบางชนิดเริ่มศึกษาไปในเด็กอายุ 3 เดือนแล้ว จึงเร่งขยายกลุ่มการให้วัคซีนให้เป็นวงกว้างทุกกลุ่ม ซึ่งการศึกษาติดตามผลในผลในเด็กจะค่อยๆ ลดอายุลงไป โดยมีการศึกษาในกลุ่มอายุต่ำกว่า 12 ปี 6 ปี ถึง 3 เดือนแล้ว แต่ในที่สุดต้องได้รับวัคซีนเหมือนกันหมด
ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
