เผยภาพกลุ่มชายฉกรรจ์บุกทำร้ายชายอายุ 30 ปี ถึงในบ้าน

เช้านี้ที่หมอชิต - อีกคดีเกิดขึ้นที่จังหวัดชัยภูมิ กลุ่มชายฉกรรจ์ ทำตัวเหนือกฎหมาย พกปืนบุกไปที่บ้านหลังหนึ่งแล้วใช้ข่มขู่และรุมทำร้ายชายอายุ 30 ปี แต่ไม่หนำใจ ยังฉุดกระชากลากพาตัวชายคนนี้ไปขึ้นรถยนต์ เพื่อทำร้ายซ้ำอีกรอบ แต่เคราะห์ดีที่ผู้เสียหายดิ้นหลุดรอดมาได้ โดยขณะเกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้

นี่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านหลังเกิดเหตุ ในพื้นที่หมู่ 4 ตำบลหนองไผ่ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งจากเวลาตามที่ระบุในกล้องวงจรปิด 20.53 น. ของวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา บันทึกภาพขณะรถยนต์ 2 คัน แล่นมาจอดบริเวณหน้าบ้าน จากนั้น กลุ่มผู้ก่อเหตุยกพวกพากันเข้าไปภายในบ้านหลังดังกล่าว โดยเข้าไปไม่นาน ก็กลับออกมาพร้อมกับ นายวีรยุทธ กึกก้อง อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นลูกชายเจ้าของบ้าน โดยเขาถูกฉุดกระชากหิ้วปีกออกมาพาไปขึ้นรถยนต์ ก่อนจะถูกชายฉกรรจ์กลุ่มนี้ใช้ปืนตบศีรษะและตามใบหน้า รวมทั้งชกต่อยซ้ำตามลำตัวอีกหลายครั้ง แต่เคราะห์ดีคืนที่เกิดเหตุ ผู้เสียหายพยายามต่อสู้ขัดขืน จนดิ้นหลุดรอดมาได้ในสภาพได้รับบาดเจ็บ-หน้าผากและศีรษะแตก ต้องเย็บ 6 เข็ม และที่เบ้าตาบวมช้ำจนดวงตาห้อเลือด 

หลังเกิดเหตุ นายวีรยุทธ กึกก้อง อายุ 30 ปี ผู้เสียหาย ตัดสินใจเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.แก้งคร้อ โดยยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับชายฉกรรจ์กลุ่มนี้มาก่อน และไม่รู้ด้วยว่าตนเองถูกทำร้ายเพราะสาเหตุใด

หลังเกิดเหตุปรากฏข่าวว่าคดีไม่คืบ เรื่องจึงร้อนถึง ผู้กำกับการ สภ.แก้งคร้อ ต้องออกมาชี้แจงว่า หลังจากที่พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความแล้ว ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเร่งประสานข้อมูลกับชุดสืบสวนตามหาเบาะแส จนไปพบภาพจากกล้องวงจรปิดจากบ้านฝั่งตรงข้ามหลังเกิดเหตุ ซึ่งเมื่อนำมาวิเคราะห์อย่างละเอียด ทำให้พบผู้ร่วมก่อเหตุในเหตุการณ์นี้มีด้วยกัน 6 คน ซึ่งทราบตัวแล้วว่ามีใครบ้าง โดยรถยนต์ 2 คัน เป็นพาหนะ

แต่ระหว่างที่ตำรวจรอรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ ปรากฏว่าช่วงเย็นวานนี้กลุ่มผู้ก่อเหตุได้ชิงเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนเสียก่อน ประกอบด้วย นายศตวรรษ ศรีวิพัฒน์, นายสุรพงษ์ โทหัตถ์, นายชูศักดิ์ หาญละคร, นายสินไชย จำปามูล, นายฤทธิเกียรติ หิรัญอร อายุ 23 ปี เจ้าของรถยนต์คันสีเทา ที่ใช้ก่อเหตุ และนายเรืองศักดิ์ แสวงกิจ อายุ 23 ปี เจ้าของรถยนต์คันสีดำที่ใช้ก่อเหตุ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติย้อนหลังของ นายฤทธิเกียรติ และ นายเรืองศักดิ์ พบมีประวัติเคยก่อคดีครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ทั้งนี้ จากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุทั้งหมดได้ให้การภาคเสธ โดยผู้ก่อเหตุ 2 ใน 6 คน ให้การอ้างว่าไม่เคยรู้จักกับ นายวีรยุทธ ผู้เสียหายมาก่อน โดยคืนเกิดเหตุมีเพื่อนมาชวนให้ไปเป็นเพื่อน จึงออกมาเที่ยวเล่นด้วยโดยไม่ได้คิดอะไร 

เป็นสิทธิของผู้ก่อเหตจะอ้างอย่างไรก็ได้ แต่จากการกระทำดังกล่าวถือว่าอุกอาจต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งภายหลังจากการสอบปากคำแล้วเสร็จ พันตำรวจเอก กำพล โนนุช ผู้กำกับการ สภ.แก้งคร้อ ได้ออกมาเผยอีกครั้งระบุว่า ผู้ก่อเหตุ อ้างว่า ต้นเหตุมาจากปมทะเลาะวิวาท และปัญหาขัดแย้งส่วนตัว และปฏิเสธปมขัดแย้งกันเรื่องยาเสพติดตามที่มีกระแสข่าวออกไปก่อนหน้านี้

เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ 6 คน ในหลายข้อหาทั้งทำร้ายร่างกาย, บุกรุกในยามวิกาลตั้งแต่ 2คนขึ้นไป, กักขังหน่วงเหนี่ยว, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งข้อหาเสพยาเสพติดกับผู้ที่ตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติดในร่างกายอีกด้วย