จับแรงงานเมียนมา 14 คน จ่อข้ามชายแดนไทย-มาเลเซีย

เช้านี้ที่หมอชิต - เจ้าหน้าที่สกัดจับแรงงานเมียนมา หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ก่อนลักลอบไปประเทศมาเลเซีย พร้อมจับกุมชาวปัตตานี ทำหน้าที่คนนำพา รับสารภาพได้ค่าจ้างคนละ 1,000 บาท

เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง 4 หน่วย ชายแดนไทย-มาเลเซีย ด้านอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา สกัดจับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ สีดำ มี นายซูคีพลี อารง อายุ 37 ปี ชาวจังหวัดปัตตานี เป็นคนขับรถ ได้ที่ถนนเลียบริมรั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา ขณะกำลังนำพาแรงงานชาวเมียนมา 7 คน แบ่งเป็น ชาย 4 คน หญิง 3 คน เพื่อส่งต่อให้คนรับช่วงต่อ ก่อนนำข้ามไปยังประเทศมาเลเซีย

และยังจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาได้เพิ่มอีก 7 คน ขณะซุกซ่อนอยู่ในชายป่าใกล้จุดแรก จากนั้นควบคุมตัวทั้งหมด พร้อม นายซูคีพลี ไปสอบสวนที่สถานีตำรวจชุมชนบ้านด่านนอก ซึ่ง นายซูคีพลี ที่เป็นผู้นำพา ให้การว่า รับแรงงานกลุ่มนี้มาจากบ้านเช่าหลังหนึ่ง ที่อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา เพื่อนำไปส่งริมรั้วชายแดนไทย-มาเลเซีย จากนั้นจะมีคนรับช่วงต่อ นำพาแรงงานข้ามรั้วชายแดนไปประเทศมาเลเซีย โดยตนได้ค่าจ้างคนละ 1,000 บาท ส่วนแรงงานอีก 7 คน ก็เดินทางมากับรถอีกคันหนึ่ง

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า แรงงานเมียนมากลุ่มนี้มีหนังสือเดินทางเพียงคนเดียว ที่เหลือหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยกลุ่มแรงงานให้การผ่านล่ามว่า เดินทางด้วยรถแท็กซี่จากจังหวัดอ่างทอง ก่อนจะนำพวกตนมาส่งที่บ้านเช่าในอำเภอนาหม่อม เมื่อวันที่ 10 กันยายน แล้วมีคนมารับเพื่อไปส่งชายแดนไทย-มาเลเซีย และลักลอบข้ามชายแดนไปประเทศมาเลเซีย

โดยพวกตนต้องจ่ายเงินให้นายหน้าคนเดียวกัน ตกคนละประมาณ 45,000 บาท หลังสอบสวน เจ้าหน้าที่ประสานให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ก่อนนำตัวไปดำเนินคดี และเร่งสอบสวนขยายผลหากลุ่มนายหน้า ซึ่งมีทั้งคนไทยและชาวเมียนมาร่วมขบวนการ

อีกด้านหลังยังพบความพยายามของแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน พยายามลักลอบหลบหนีเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติต่อเนื่อง ล่าสุด ร้อยตำรวจโท ภพชนก ชลานุเคราะห์ รองอธิบดีกรมการปกครอง สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ในพื้นที่จังหวัดติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน 128 อำเภอ 31 จังหวัด ประสานความร่วมมือกับตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังการลักลอบข้ามชายแดนผ่านช่องทางธรรมชาติของแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเข้ามาทำงานในประเทศไทย และเดินทางต่อไปประเทศที่ 3 โดยให้ตั้งจุดตรวจจุดสกัด พร้อมจัดชุดลาดตระเวน เฝ้าตรวจและทำความเข้าใจกับประชาชน ให้ช่วยเป็นหูเป็นตา เพราะแรงงานอาจนำพาเชื้อโควิด-19 เข้ามาระบาดในประเทศไทยได้ โดยขณะนี้จับกุมผู้ต้องหาหลบหนีเข้าเมือง พร้อมผู้นำพา และผู้ให้ที่พักพิง ได้มากกว่า 2,534 คน