ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

เปิดโปงขบวนการเรียกรับเงินในเรือนจำ แลกกับการพ้นโทษเร็วขึ้น

เจาะประเด็นข่าว 7HD - วันนี้มีการร้องเรียนเรื่องที่ถือว่าส่งผลกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมอีกครั้ง โดยมีอดีตผู้ต้องขังคนหนึ่ง ออกมาเปิดโปงว่ามีขบวนการเรียกรับผลประโยชน์ในเรือนจำ แลกกับการได้สิทธิพ้นโทษเร็วขึ้น 

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำอดีตผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดชลบุรี คดีฆ่าคนตาย ซึ่งพ้นโทษออกมาเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. เพื่อให้ดำเนินคดีกับขบวนการเรียกรับผลประโยชน์ในเรือนจำ

หลักฐานที่นำมาแจ้งความเป็นข้อความแช็ตพูดคุยเรียกรับผลประโยชน์ ระหว่างเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และญาติของอดีตผู้ต้องขัง รวมถึงสลิปการโอนเงินให้กับเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง โดยอดีตผู้ต้องขังรายนี้ เปิดเผยว่า เงินที่จ่ายไปเป็นค่าเดินเรื่องเสนอชื่อเลื่อนระดับชั้นของผู้ต้องขัง และการเสนอชื่อเข้ารับการลดหย่อนโทษ หากยอมจ่ายเงินตามที่ถูกเรียกรับก็จะได้รับการเลื่อนชั้นเป็นนักโทษชั้นดีเร็วขึ้น แต่หากไม่ยินยอมจ่ายก็จะถูกลดชั้นแทน โดยระหว่างที่ตนเองติดคุกอยู่ ถูกเรียกเงินไปมากกว่า 2 ล้านบาท มีทั้งการจ่ายเงินสด และโอนผ่านบัญชีธนาคาร ทำให้ตนเองติดคุกจริงเพียง 5 ปี จากที่ถูกศาลลงโทษจำคุกเป็นเวลา 23 ปี 4 เดือน หรือได้ออกจากคุกเร็วขึ้นเกือบ 5 เท่า จากระยะเวลาปกติ

อดีตผู้ต้องขังยังบอกอีกว่า ตนเคยร้องเรียนเรื่องที่เกิดขึ้นไปถึงผู้บัญชาการเรือนจำแล้ว แต่เรื่องก็เงียบ จึงร้องเรียนต่อปลัดกระทรวงยุติธรรม แต่เรื่องก็เงียบหายอีกเช่นเคย แม้ว่าผลการสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่เรียกรับเงินจะให้การรับสารภาพก็ตาม จึงต้องนำเรื่องเข้าร้องเรียนกับนายอัจฉริยะ เพื่อให้มีการเปิดโปงขบวนการดังกล่าว ซึ่งหากสอบสวนแล้วพบว่ามีจริง ก็เท่ากับว่ากระบวนการลงโทษผู้กระทำความผิดใช้ไม่ได้ผล และจะทำให้มีคนพ้นโทษออกมากระทำผิดซ้ำได้เร็วขึ้น

ด้าน นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยอมรับว่า เรื่องนี้ได้รับการร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 2560 มีการสอบสวนและพบว่ามีมูลความจริง เนื่องจากพบว่าในช่วงปีดังกล่าว มีผู้ต้องขังได้รับการเลื่อนชั้นมากผิดปกติ สำหรับเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนได้ทำการสอบถามไปยังสำนักผู้ตรวจการกรมราชทัณฑ์แล้ว ว่าเหตุใดจึงตรวจสอบล่าช้า และยังไม่มีการลงโทษเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิด ซึ่งปัจจุบันก็พบว่ายังคงปฏิบัติหน้าที่ที่เรือนจำที่เกิดเหตุ ไม่ได้ถูกโยกย้ายไปที่อื่นแต่อย่างใด หากผลการตรวจสอบออกมาว่ามีความผิด ก็จะถูกดำเนินการทางวินัยและอาญาด้วย

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark