น้ำท่วมภาคเหนือ-อีสาน ยังไม่คลี่คลาย

ข่าวภาคค่ำ - สถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดทางภาคเหนือ และภาคอีสาน ตอนนี้ก็ยังไม่คลี่คลาย แม้ว่าฝนจะตกน้อลงก็ตาม พร้อมทั้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเมืองเพชรบูรณ์ เตรียมรับสถานการณ์ เพราะมวลน้ำอาจไหลถึงในค่ำคืนนี้

ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ แม้ว่าในพื้นที่เศรษฐกิจตัวเมืองหล่มสัก ระดับน้ำจะลดลงแล้ว แต่มวลน้ำมากในแม่น้ำป่าสัก ยังสูง และไหลหลากลงพื้นที่ท้ายน้ำ ทำให้หลายตำบลตอนล่างอำเภอหล่มสัก ยังมีน้ำท่วมสูง ชาวบ้านต้องนำกระสอบทรายมาทำแนวกั้นไม่ให้ไหลท่วมบ้าน 

ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบูรณ์ เตือนมวลน้ำอาจไหลถึงเมืองเพชรบูรณ์ ค่ำคืนนี้ ขอให้คนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงเตรียมรับสถานการณ์ สำหรับจังหวัดเพชรบูรณ์ มีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 2 อำเภอ 10 ตำบล 2 เทศบาล 51 หมู่บ้าน 9 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,406 หลังคาเรือน และมีผู้เสียชีวิต 1 คน

ที่จังหวัดพิจิตร แม่น้ำยมที่ไหลอ่านอำเภอสามง่าม เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เพราะมีมวลน้ำที่ไหลมาสมทบจากจังหวัดสุโขทัย และจังหวัดพิษณุโลก ประกอบกับปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักก่อนหน้านี้ จนเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนริมแม่น้ำยม และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะหมู่ที่ 11 บ้านปากคลอง ตำบลรังนก ขณะที่บางหมู่บ้านต้องเตรียมเรือใช้สัญจรแทนรถ ชาวบ้านต้องอยู่กันอย่างยากลำบาก อีกทั้งต้องเก็บข้าวของไว้บนที่สูง เพื่อไม่ให้เสียหาย

ทางภาคอีสาน ที่จังหวัดนครราชสีมา มวลน้ำในอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) ทะลักท่วมขยายวงกว้างหลายหมู่บ้านในตำบลหนองบัวละคร อำเภอด่านขุนทด ชาวบ้านนับร้อยหลังคาเรือนได้รับผลกระทบ บางจุดน้ำท่วมมิดโอ่งเก็บน้ำขนาดใหญ่สูง 120 เซนติเมตร ถนนในหมู่บ้านน้ำท่วมสูงผ่านไม่ได้ ต้องใช้เรือท้องแบนและรถไถขนาดใหญ่ในการสัญจร หลายครอบครัวต้องย้ายไปอาศัยที่อื่น ชาวบ้านบอกว่าครั้งนี้น้ำท่วมหนักที่สุดในรอบ 10 ปี

สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท วันนี้มีน้ำไหลผ่านเพิ่มขึ้น 669 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่อำเภอเมืองชัยนาท สูงขึ้น 31 เซนติเมตร อยู่ที่ระดับ 15.90 เมตร กรมชลประทาน ต้องเพิ่มการระบายน้ำเพิ่มจากเมื่อวานอีก 349 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ที่อำเภอสรรพยา สูงขึ้นอยู่ที่ระดับ 11.64 เมตร กระทบบางพื้นที่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขอให้ประชาชนเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด