ผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ แจ้งเตือนเฝ้าระวังแม่น้ำป่าสักเอ่อล้นตลิ่ง

ประเด็นเด็ด 7 สี - ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ แจ้งเตือนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำภายในแม่น้ำป่าสัก เอ่อล้นตลิ่งท่วมพื้นที่เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ภายหลังมีฝนตกหนัก

จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ลงไหลลงสู่เขตพื้นที่ตัวเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ แล้ว โดยทางเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ได้ประกาศเสียงตามสายเตือนประชาชนเฝ้าระวังแม่น้ำป่าสัก มีน้ำล้นตลิ่ง ตลอดช่วง 24 ชั่วโมงนี้

ขณะที่ สำนักงานชลประทานที่ 10 กรมชลประทาน ได้นำธงสีส้ม แสดงสัญลักษณ์ของสถานการณ์น้ำอยู่ในช่วงวิกฤต มาปักไว้บนสะพาน เพื่อให้เห็นได้อย่างชัดเจน โดยพบว่าปริมาณน้ำเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ออกมาแจ้งเตือนทุกหน่วยงานให้เฝ้าระวัง และเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำภายในแม่น้ำป่าสัก ที่เอ่อล้นตลิ่ง อาจเข้าท่วมเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ โดยให้รับมือสถานการณ์ขั้นสูงสุดในการป้องกันน้ำ ไม่ให้น้ำแม่น้ำป่าสัก เอ่อท่วมพื้นที่เขตเมือง ส่วนเขตพื้นที่ทางการเกษตรตอนล่างอาจจะได้รับผลกระทบบ้าง

ส่วนที่บ้านโพนทอง ตำบลเชียงกลม อำเภอปากชม จังหวัดเลย มีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมถนนหนทางเข้าออกหมู่บ้าน ท่วมสะพานข้ามลำห้วย และท่วมบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายหลายหลัง ภายหลังมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ตั้งแต่เมื่อคืนต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้าของวันนี้

โดยชาวบ้านต่างช่วยกันขนของหนีน้ำกันอลหม่าน ล่าสุด ทาง อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น พร้อมกับให้ความช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเร่งด่วน พร้อมประกาศแจ้งเตือนผู้ที่มีบ้านอยู่ริมน้ำให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

สถานการณ์น้ำภายในแม่น้ำยม พื้นที่อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร พบว่า มีระดับน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำหลายหลัง โดยได้รับมวลน้ำมาจากจังหวัดพิษณุโลกและสุโขทัย และมีระดับเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากพื้นที่ตำบลต่าง ๆ ของอำเภอสามง่าม เป็นที่ลุ่มต่ำ ล่าสุดระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 50 เซนติเมตร ชาวบ้านต้องใช้การพายเรือเข้าออกบ้าน พร้อมกับขนย้ายสิ่งของและสัตว์เลี้ยงเพื่อหนีน้ำ และเตรียมพร้อมรับมือกับระดับน้ำที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้นอีกจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนในระยะนี้

สำหรับพื้นที่ภาคอีสาน ที่บ้านหนองบัวละคร อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา มีภาพมุมสูงเผยให้เห็นถึงสภาพอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง บริเวณต้นทางรับน้ำ มีมวลน้ำมหาศาลโอบล้อมเต็มพื้นที่หลายพันไร่ และโอบล้อมหมู่บ้านโดยรอบ โดยพบมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ 32.4 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 117% ของความจุทั้งหมด ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมกว่า 150 หลังคาเรือน มีระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร และยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง เนื่องจากมีมวลน้ำจากด้านบนไหลเข้ามาสมทบอย่างต่อเนื่อง