ยังเฝ้าระวังแม่น้ำป่าสัก ล้นตลิ่ง จ.เพชรบูรณ์

เจาะประเด็นข่าว 7HD - เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและเตือนประชาชนในหลายจังหวัดเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หลังระดับน้ำยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเตรียมยกสิ่งของพ้นน้ำ หรือเสริมความแข็งแรงของสิ่งก่อสร้าง

ยังเฝ้าระวังแม่น้ำป่าสัก ล้นตลิ่ง จ.เพชรบูรณ์
สถานการณ์น้ำในแม่น้ำป่าสัก ที่ไหลมาจากอำเภอหล่มสัก เข้าสู่อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวังเช็คระดับน้ำตลอด 24 ชั่วโมง ป้องกันน้ำไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ คาดว่าหากไม่มีน้ำตอนบน หรือฝนตกหนักบนเทือกเขามาสมทบระดับน้ำจะลดลง

อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร เกินความจุ เร่งเสริมแนวป้องกัน จ.นครราชสีมา
ไปที่ดูน้ำในอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) พื้นที่ อำเภอด่านขุนทด เชื่อมกับ อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา ยังน่าเป็นห่วง หลังมวลน้ำไหลลงอ่างอย่างต่อเนื่อง จนปริมาณน้ำเกินความจุ ขณะการระบายนำ้ทำได้ไม่เต็มที่ เพราะอยู่ระหว่างก่อสร้างปรับปรุงประตูระบายน้ำใหม่ ทำให้ชาวบ้านพื้นที่ท้ายอ่าง หวั่นอ่างเก็บน้ำต้านทานกระแสน้ำไม่ไหว

เตือนระวังน้ำล้นตลิ่งท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท
ส่วนสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำไหลผ่านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอเมืองชัยนาท 1,864 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้น ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อน ที่อำเภอสรรพยา ระดับน้ำจะน้ำสูงขึ้นอีก 35 เซนติเมตร และผันเข้าระบบชลประทาน ฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก จึงมีคำเตือนให้ชาวบ้านเฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูง 

เตือนเรือบรรทุกสินค้าลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ระวังน้ำเชี่ยว จ.อ่างทอง
ทั้งนี้ มีการเตือนเรือขนส่งลุ่มเจ้าพระยาเพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือหลังเขื่อนเจ้าพระยาที่จังหวัดชัยนาทพร่องน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนต่อเนื่อง เพื่อเตรียมรับมวลน้ำจากภาคเหนือตอนล่างกำลังไหลลงมาสมทบ ทำให้การควบคุมเรือเป็นไปอย่างยากลำบาก ผู้ประกอบการหลายรายลดจำนวนเรือพ่วงลงจากเดิม เพื่อความคล่องตัวในการควบคุมเรือ รวมถึงใช้วิธีนำเรือลากจูง ทางด้านท้ายอีกหนึ่งลำเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ

นายกรัฐมนตรี ลุยชัยนาทบัญชาการรับมือน้ำเหนือ
สถานการณ์น้ำตอนบนลุ่มน้ำเจ้าพระยา ล่าสุด พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องลงพื้นที่ด่วนเพื่อประเมินสถานการณ์และบริหารจัดการน้ำในเขื่อนเจ้าพระยา รับมือน้ำเหนือหลากและวางแผนป้องกันพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง พร้อมสั่งจัดทำแผนอพยพทั้งคนและสัตว์เลี้ยงไปยังพื้นที่ปลอดภัย แจ้งเตือนประชาชนให้ทันต่อสถานการณ์ และแผนเยียวยาหลังสถานการณ์คลี่คลาย

ส่วนกระทรวงมหาดไทย ประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ​ ผ่าน Video Conference ปรับแผนเผชิญเหตุอุทกภัย วาตภัย​ และดินโคลนถล่ม เน้นเร่งระบายน้ำในพื้นที่สำคัญ และดูแลผู้ประสบภัยจนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย​ 

ทั้งนี้สภาพอากาศในวันนี้มีฝนฟ้าหนัก 60-70% ทั่วทุกภาค และมีฝนตกหนักบางแห่ง จึงยังต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า สภาพอากาศจะเป็นแบบนี้ ไปอีก 1-2 วัน จากนั้น ฝนจะลดลงในช่วงวันที่ 17-20 กันยายน