ไทยพร้อมแล้วหรือที่จะเปิดประเทศ?
ประเด็นเด็ด 7 สี - กลายเป็นประเด็นร้อน เมื่อรัฐบาลประกาศเตรียมเปิดประเทศ 1 ตุลาคมนี้ ประเดิม 5 จังหวัด กทม. ชลบุรี เพชรบุรี เชียงใหม่ และประจวบคีรีขันธ์ หลายฝ่ายหนุนให้เปิดเพราะภาคธุรกิจกำลังไปไม่ไหว แต่มีเสียงเตือนจากแพทย์ที่ยังไม่อยากให้เปิดในเวลานี้ หวั่นคุมไม่อยู่ ติดตามเรื่องนี้กับคุณรัตนกรณ์ โต๊ะหมัด
ทันทีที่รัฐประกาศเดินหน้าเปิดประเทศ นำร่องอีก 5 จังหวัด กทม. ชลบุรี เพชรบุรี เชียงใหม่ และประจวบคีรีขันธ์ เกิดเสียงทัดทานจากทีมแพทย์ ในประเทศยังคุมไม่อยู่ หวั่นเอาต่างชาติเข้ามามากจะยิ่งลำบาก
เจาะลึกแผนเปิดประเทศที่รัฐบาลวางไว้มี 3 ระยะ เริ่มตั้งแต่กรกฎาคม-กันยายน ระยะที่ 2 วันที่ 1 ตุลาคม ในพื้นที่ 5 จังหวัด ระยะที่ 3 เปิดเพิ่มอีก 6 ภาค 21 จังหวัด วันที่ 15 ตุลาคม ระยะที่ 4 เริ่มมกราคมปีหน้า เปิดพื้นที่ติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยการจับคู่การท่องเที่ยวระหว่างกัน
แต่ผลหารือล่าสุดระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับ ผู้ว่าฯ กทม. ตัดสินใจเลื่อนการเปิดเมืองไปเป็นกลางเดือนตุลาคมนี้ รอให้คนกรุงเทพฯ รับวัคซีน 70% ของประชากรก่อน
ขณะ ศบค. สรุปรายงานผลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ นับจากวันที่ 1 กรกฎาคม - 14 กันยายน รวม 76 วัน มีนักท่องเที่ยวทั้งหมด 32,005 คน พบผู้ติดเชื้อเพียงแค่ 91 คน หรือคิดเป็น 0.28% มียอดจำนวนคืนของผู้เข้าพักมากถึง 524,221 คืน
การเปิดประเทศคือการยอมแบกรับความเสี่ยงในการแพร่ระบาด เพราะไวรัสไม่เคยหยุดนิ่ง มีการกลายพันธุ์ตลอดเวลา
เมื่อต้องเปิดประเทศการคัดกรองเชื้อยิ่งสำคัญ ข่าวดีที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทยอีกไม่ช้าคือจะมี ATK เป็นของตัวเอง
ในวันที่รัฐบาลประกาศเดินหน้าประเทศ ยอดผู้ติดเชื้อยังหลักหมื่น ยอดตายยังหลักร้อย การคัดกรองเชื้อต้องทั่วถึง หากมองภาพรวมถือเป็นแนวทางสวยหรูให้เศรษฐกิจได้เดินหน้า แต่หากมองในข้อเท็จจริง ประเทศไทยยังถือเป็น 1 ใน 10 ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากที่สุดในโลก
เมื่อเปิดแล้วต้องเดินหน้า แต่หากมีแผลสะเทือนไปทั้งประเทศ ก็ได้แต่หวังว่าจะมีคนรับผิด ไม่ใช่แค่รับชอบ