ข่าวในหมวด เช้านี้ที่หมอชิต

พิยดา มอบตัวสู้คดีหลอกขายโทรศัพท์มือถือ ด.ช.อายุ 14 ปี เครียดเสียชีวิต

เช้านี้ที่หมอชิต - หญิงสาวที่ตกเป็นผู้ต้องหาเอี่ยวหลอกลวงขายโทรศัพท์มือถือให้เด็กชายอายุ 14 ปี โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ จนเกิดอาการเครียดเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต เมื่อวานนี้หญิงสาวคนนี้เข้ามอบตัวแล้ว โดยปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และโต้ไม่ได้หลอกเด็ก แค่รู้จักกับแอดมินเพจ

ตามข่าวที่นำเสนอก่อนหน้านี้ว่า เด็กชายอายุ  14 ปี น้องก้อง นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เก็บออมเงินเพื่อนำไปซื้อโทรศัพท์มือถือไอโฟน ราคา 5,000 บาท จากหญิงสาวคนหนึ่งที่โพสต์ขายผ่านอินสตาแกรม แต่หลังจากเด็กชายตกลงซื้อและโอนเงินค่าโทรศัพท์ให้ กลับไม่ได้รับสินค้า ทำให้เกิดอาการเครียดอย่างหนัก จนเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต หลังเกิดเรื่อง พลตำรวจโท กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. สั่งการให้ชุดสืบสวน หาข้อมูล เร่งติดตามจับกุมขบวนการดังกล่าว ก่อนจับกุมหญิง 2 คน แล้วซัดทอดว่า นางสาวพิยดา ทองคำพันธ์ อายุ 19 ปี ซึ่งเปิดร้านค้าออนไลน์ มีผู้ติดตามหลายหมื่นคน จ้างให้เปิดบัญชีรับโอนเงินจากการขายสินค้า และจากการสืบสวนเชิงลึก พบอีกว่าเงินส่วนใหญ่ที่ได้มาจากการฉ้อโกงผู้อื่น

กระทั่งตำรวจรวบรวมหลักฐานขอศาลจังหวัดเชียงใหม่ ออกหมายจับ นางสาวพิยดา ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อประชาชน

หลังจากที่เธอตกเป็นผู้ต้องหา เมื่อวานนี้ (28 ก.ย.) นางสาวพิยดา ทองคำพันธ์ พร้อมทนายความ เข้ามอบตัวกับตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ แต่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยืนยันว่าไม่เคยคุย หรือหลอกลวงเด็กชายอายุ 14 ปี รวมทั้งไม่รู้จักและไม่ได้จ้างหญิง 2 คน ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ให้เปิดบัญชี แต่ยอมรับว่าเป็นแม่ค้าออนไลน์จริง โดยยืนยันว่าทรัพย์สินทุกอย่างหามาจากการขายออนไลน์โดยสุจริต

หลังสอบปากคำ ตำรวจนำตัวนางสาวพิยดา ไปกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อสอบสวนขยายผล ก่อนควบคุมตัวนางสาวพิยดา ส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.นาหวาย เจ้าของคดี ซึ่งตำรวจมั่นใจพยานหลักฐานที่จะเอาผิดได้ และพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว

ขณะที่จากการตรวจสอบประวัติการต้องโทษ พบว่า นางสาวพิยดา เคยถูกจับกุมคดีฉ้อโกง ตั้งแต่ยังเป็นเยาวชนในท้องที่จังหวัดปทุมธานี 1 ครั้ง จากนั้นว่าจ้างให้ผู้อื่นเปิดบัญชีธนาคารให้ไม่ต่ำกว่า 29 บัญชี เพื่อใช้หลอกลวง โดยเงินจะถูกโอนต่อเข้าบัญชีนางสาวพิยดาทั้งหมดทันที ก่อนแปรสภาพไปซื้อทรัพย์สินต่าง ๆ หรือใช้ลงทุนชื่อบุคคลอื่น เพื่อซ่อนอำพรางทรัพย์สิน

ซึ่งขณะนี้ ตำรวจประสานให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ยึดอายัดและตรวจสอบทรัพย์สินบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยยังไม่สามารถประเมินมูลค่าทรัพย์สินได้ แต่เบื้องต้นอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ของนางสาวพิยดากับพวกไว้จำนวน 10 รายการ

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark