คอลัมน์หมายเลข 7 : ส่อง สัมปทานรังนก ทุจริต-อำนาจมืด ? ตอนที่ 2

ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 วันนี้ ขยายผลจากปมขโมยรังนกที่จังหวัดพัทลุง สู่ธุรกิจสัมปทานรังนก ที่มีทั้งการทุจริตและอำนาจมืดเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นอย่างไร ติดตามกับคุณสมจิตต์ นวเครือสุนทร

เป็นคำบอกเล่าของ อาจารย์เกษม จันทร์ดำ นักวิจัยสนามด้านมานุษยวิทยา ที่ศึกษาเรื่องราวของนกอีแอ่นมายาวนานหลายสิบปี ชี้ให้เห็นถึง "ธุรกิจสัมปทานรังนก" ที่มีลักษณะกึ่งผูกขาด เพราะมีแค่ไม่กี่บริษัทที่ทำ และที่สำคัญ แม้จะมีชื่อสองบริษัทสามารถส่งออกไปประเทศจีนได้ แต่ความจริงมีเพียงบริษัทเดียวที่สามารถส่งออกรังนกไปจีนได้

สำหรับปัญหาการขโมยรังนกที่จังหวัดพัทลุง ที่เกิดขึ้นระหว่างช่วงรอยต่อ รอการประมูลสัมปทานรอบใหม่ ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน ถึง 9 กันยายน จนตกเป็นข่าวครึกโครมช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ที่จะเป็นปัญหามาก คือ ตลอด 3 เดือนนั้น มีการทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงเป็นระยะ เพื่อให้เฝ้าระวังไม่ให้มีการลักขโมยรังนก จนนำไปสู่การจัดเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานร่วมเฝ้าถ้ำ ใช้งบประมาณไปกว่า 4.9 ล้านบาท แต่สุดท้ายกลับจบลงที่มีการขโมยรังนก พร้อมมีการเผยแพร่คลิปเสียงที่อ้างว่า เจ้าหน้าที่เปิดทางให้มีการเคลื่อนย้ายรังนก จึงดูเหมือนว่า ภาครัฐจะหนีความรับผิดชอบไปไม่พ้น

แม้ในขณะนี้จะจับกุมแก๊งขโมยรังนกได้แล้ว แต่ในมุมของผู้ศึกษาเรื่องนกอีแอ่นมายาวนาน กลับมองว่า โอกาสที่คนเหล่านี้จะรอดพ้นจากความผิดมีสูงมาก

นอกจากข้อสังเกตว่า คดีนี้อาจจบลงที่เอาผิดใครไม่ได้แล้ว อีกประเด็นที่มองข้ามไม่ได้คือ รัฐอาจจะเสียค่าโง่ ต้องจ่ายค่าชดเชยให้บริษัทเอกชนที่ได้รับสัมปทานหรือไม่ สุดท้ายเรื่องนี้จะจบอย่างไร สังคมต้องร่วมกันติดตามและตรวจสอบ