จ.จันทบุรี ยังเผชิญน้ำท่วมหลายอำเภอ เร่งอพยพชาวบ้านพื้นที่เสี่ยง

เช้านี้ที่หมอชิต - ที่จังหวัดจันทบุรี หลายพื้นที่ยังคงเผชิญกับปริมาณน้ำที่ท่วมสูงขึ้นจากอิทธิพลของพายุ และฝนที่ตกหนัก ทำให้จังหวัดมีการประกาศเตือนให้ชาวบ้านอพยพและยกสิ่งของขึ้นที่สูงโดยด่วน พร้อมตั้งศูนย์อพยพชั่วคราวที่ศาลากลางจังหวัด

สถานการณ์น้ำล่าสุด เมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) ที่จังหวัดจันทบุรี ไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม ทำให้หลายพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี มีปริมาณน้ำลดลงในบางจุด แต่ผลกระทบจากปริมาณน้ำฝนที่ลงมาก่อนหน้านี้ที่สูงกว่า 300-400 มิลลิเมตร ในอำเภอขลุง อยู่ที่ 401.07 มิลลิเมตร รองลงมาอยู่ที่อำเภอแหลมสิงห์ อยู่ที่ 371.07 มิลลิเมตร และอำเภอเมืองอยู่ที่ 340.30 มิลลิเมตร ทำให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ต้องเปลี่ยนธงสัญญาณเตือนปริมาณน้ำในแม่น้ำจันทบุรี ที่บริเวณสะพานตรีรัตน์ เป็นธงสีแดง ซึ่งหมายความว่าระดับน้ำในแม่น้ำอยู่ในระดับวิกฤต ปริมาณน้ำสูงเกิน 3 เมตร หลังกรมชลประทานออกประกาศให้ประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำจันทบุรี อพยพออกจากพื้นที่ และขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเขื่อนท่าระม้า ที่อำเภอมะขาม มีปริมาณน้ำมากเกินความสามารถที่จะรองรับได้ ต้องปล่อยน้ำทายเขื่อน ส่งผลให้เกิดน้ำล้นตลิ่ง บริเวณริมแม่น้ำจันทบุรีทั้งหมด ตั้งแต่อำเภอเขาคิชฌกูฏ อำเภอมะขาม และอำเภอเมือง

แต่จากฝนที่ตกลงมาหลายวัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่ อย่างที่ หมู่บ้านนาฏศิลป์ ตำบลท่าช้าง ที่น้ำท่วมกว่า 2 เมตร ทำให้ทรัพย์สินของชาวบ้านได้รับความเสียหาย ทั้งรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จอดจมน้ำ บ้านเรือนร้านค้าต่าง ๆ ที่ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงไม่ทันก็ต้องปล่อยให้จมน้ำเสียหาย เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และหน่วยงานต่าง ๆ ต้องเข้าให้ความช่วยเหลือ อย่างบ้านหลังหนึ่งที่ต้องช่วยเหลือเคลื่อนย้ายเด็กทารก หลังน้ำไหลเข้าท่วมบ้านอย่างรวดเร็ว โดยจังหวัดได้ตั้งศูนย์อพยพชั่วคราวที่ศาลากลางจังหวัด ให้ประชาชนที่ได้รัยความเดือดร้อนมาพักอาศัย หรือหากต้องการความช่วยเหลือสามารถโทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือได้ที่เบอร์สายด่วน 1784

ขณะที่ถนนสายแสลง-วังแซ้ม หมู่ 2 ตำบลแสลง อำเภอเมือง สะพานคลองแสลง ถูกน้ำพัดทำให้คอสะพานพัง ยาว 6 เมตร ลึกกว่า 1 เมตร ไม่สามารถใช้สัญจรได้ เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงชนบท ต้องนำแท่งแบริเออขนาดใหญ่มาวางปิดกั้น พร้อมติดป้ายสัญญาณเตือนงดใช้เส้นทางดังกล่าวชั่วคราว

จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่า เมื่อคืนวันที่ 12 ตุลาคม มีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องหลายชั่วโมง ทำให้น้ำในคลองไหลแรงและเพิ่มสูง ประกอบคอสะพานมีรอยทรุดอยู่ก่อนหน้านี้ เมื่อเจอกระแสน้ำจึงทำให้สะพานทรุดตัวพังเสียหาย อีกทั้งยังมีรถบรรทุกสัญจรผ่านอีกด้วย

นอกจากจะต้องเร่งขนย้ายสิ่งของและทรัพย์สินมีค่าแล้ว ชาวบ้านที่ตำบลเขาวัว-พลอยแหวน อำเภอท่าใหม่ ยังต้องขนย้ายสัตว์เลี้ยง อย่างภาพที่เห็น ลูกแมวถูกใส่ถุงหนีน้ำแบบนี้ออกมา โดยชาวบ้านบอกว่าเธอมีลูกแมวหลายตัว แล้วช่วงกลางดึกวานนี้ (12 ต.ค.) เธอต้องขนย้ายหลายอย่าง แต่ก็อดห่วงลูกแมวไม่ได้ เห็นถุงพลาสติกใกล้ก็เลยเอาลูกแมวใส่ถุงแล้วหิ้วออกมาแบบนี้สะดวกดีและยังถือของอื่น ๆ ได้อีก ถือว่าเป็นความน่ารัก สร้างรอยยิ้มให้กับผู้ที่พบเห็นในยามวิกฤติแบบนี้

ส่วนการระบายน้ำในพื้นที่เขตอำเภอเมือง ทางกรมชลประทานได้เปิดบานประตูระบายน้ำที่คลองภักดีรำไพ เพื่อช่วยผลักดันน้ำระบายลงสู่ทะเลและช่วยตัดยอดน้ำบางส่วนที่ไหลผ่านตัวเมืองจันทบุรี คาดว่าจะต้องใช้เวลา 3-4 วัน ปริมาณน้ำจะลดลง เนื่องจากมีน้ำทะเลหนุนสูงในช่วงนี้ ทำให้การระบายน้ำทำได้ยาก