ผลกระทบสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่
เจาะประเด็นข่าว 7HD - วันนี้ผลกระทบจากพายุโซนร้อน "คมปาซุ" แม้จะไม่กระทบมากนัก แต่หลายพื้นที่ก็ยังคงเดือดร้อนต่อเนื่อง รวมทั้งการเตรียมให้ความช่วยเหลือในหลายจังหวัดด้วย
จากที่เมื่อวานนี้ กรมชลประทาน แจ้งเตือนประชาชนริมฝั่งแม่น้ำจันทบุรี ให้รีบขนของขึ้นที่สูง หลังฝนตกหนักกว่า 300 มิลลิเมตร ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นใกล้ล้นตลิ่ง เจ้าหน้าที่ต่างเฝ้าระวังปริมาณน้ำในแม่น้ำจันทบุรีอย่างต่อเนื่อง สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ต่างขนย้ายสิ่งของขึ้นไปไว้บนที่สูง และทีมกู้ภัยทางน้ำจัดเรือท้องแบน และเตรียมความพร้อมให้การช่วยเหลือชาวบ้าน แต่จากการตรวจสอบวันนี้ระดับน้ำในแม่น้ำจันทบุรี ลดลงจากจุดวิกฤติอย่างต่อเนื่อง แต่ยังอยู่ในระดับที่เฝ้าระวังสูงสุด น้ำในแม่น้ำไหลระบายได้ดี โดยระดับน้ำที่สะพานวัดจันทนาราม แม้ว่าจะต่ำกว่าจุดวิกฤติ 35 เซนติเมตร แต่เจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวังปริมาณน้ำในแม่น้ำอย่างต่อเนื่อง
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดตราด ระดับน้ำในคลองห้วยแร้ง แม่น้ำเขาสมิง เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ส่งผลให้อำเภอเขาสมิง และอำเภอเมืองตราด ลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง และกำลังกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ยกเว้นอำเภอเมือง ยังคงเร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หากมีน้ำทะเลขึ้นมาหนุนเพิ่ม อีกทั้งเมฆที่ปกคลุม และส่อเค้าจะมีฝนตกลงมาอีกครั้ง อาจจะทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีกก็เป็นได้
ขณะที่ภาคกลาง ที่เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ได้ทำการระบายน้ำในเขื่อนน้อยลงที่ 2,291 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลง 54 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะลดลงต่ำกว่าตลิ่งเกือบทุกพื้นที่ แต่ยังมีน้ำท่วมขังบ้านเรือนอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะอำเภอสรรพยา ประชาชนกว่า 4,300 ครัวเรือน ยังคงได้รับความเดือดร้อน เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสูบระบายน้ำที่กำลังเน่าท่วมขัง
ขณะที่ ชาวนาอำเภอสรรพยา ต่างหมดหวังที่จะกู้นาข้าวคืนจากน้ำที่ท่วมขังกว่า 2 สัปดาห์ ต่างยอมรับสภาพเงินที่ลงทุนทำนา และหายไปกับน้ำในปีนี้
ส่วนผลกระทบจากมวลน้ำที่จังหวัดสระบุรี ส่งผลให้ตลิ่งภายในวัดบ้านกอก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ โดยเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา น้ำได้กัดเซาะตลิ่งดึงเอากุฏิพระ 5 หลังได้รับความเสียหาย ดีที่พระที่กำลังจำวัดจำนวน 9 รูป สะดุ้งตื่น เนื่องจากได้ยินเสียงกิ่งไม้และต้นไม้มากระแทกกุฏิ จึงหนีรอดออกมาได้อย่างหวุดหวิด แต่จีวรและทรัพย์สินบางส่วนในกุฏิได้รับความเสียหาย ส่วนพระทั้ง 9 รูป ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
นอกจากนี้มีบ้านพักสองชั้นเก่าแก่กว่า 70 ปี ซึ่งตั้งอยู่ติดริมตลิ่งแม่น้ำป่าสักอีกจุดหนึ่ง ถูกน้ำกัดเซาะตลิ่งถล่มลงมาทั้งหลัง โดยบ้านหลังนี้อยู่ริมแม่น้ำวัดหงษ์ดาราวาส ซึ่งเป็นเส้นทางน้ำเดียวกันกับวัดบ้านกอก ที่ถูกพัดเอากุฏิพระลงน้ำ 5 หลังเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นพื้นที่ และห้ามบุคคลภายนอกเข้าใกล้อย่างเด็ดขาด เพราะเกรงจะเกิดดินไหลขึ้นมาอีกครั้ง
ส่วนที่จังหวัดพิจิตร ยังคงส่งผลกับการดำรงชีวิต แต่ในยามมีทุกข์ก็มีความสุขเช่นกัน โดยที่ตำบลวังจิก อำเภอโพธิ์ประทับช้าง ซึ่งติดกับแม่น้ำยม วงดนตรีไทยคณะปิยะนุช ต้องขอให้เรือมาช่วยขนเครื่องดนตรีไทย ทั้งระนาด ตะโพน เครื่องสาย และเครื่องเสียงของวงดนตรีออกจากบ้าน เนื่องจากเกรงจะได้รับความเสียหาย และเมื่อขนย้ายมาที่ปลอดภัยแล้ว ก็เลยทำการแสดงให้ทุกคนชม เป็นการขอบคุณที่ให้การช่วยเหลืออย่างที่เห็น