จับแรงงานชาวกัมพูชา 20 คน ลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย

เช้านี้ที่หมอชิต - ส่วนที่จังหวัดสระแก้ว เจ้าหน้าที่จับแรงงานชาวกัมพูชา 20 คน ลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย ในพื้นที่ชายแดนอำเภอตาพระยา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ต้องสั่งการให้ สกัดถึง 3 ชั้น หลังพบแรงงานลักลอบเข้าประเทศอย่างต่อเนื่อง

เจ้าหน้าที่ทหารประจำกองกำลังชายแดน ชุดเคลื่อนที่เร็วเฉพาะกิจตาพระยา กองกำลังบูรพา ร่วมกับ ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 ลาดตระเวนซุ่มเฝ้าตรวจในพื้นที่บริเวณช่องทางธรรมชาติ ตำบลตาพระตา อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว และสามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เป็นชาวกัมพูชา จำนวน 20 คน ชาย 13 คน หญิง 7 คน และไม่พบผู้นำพา จึงนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม

จากการสอบถามทราบว่า ชาวกัมพูชาดังกล่าวจะเดินทางไปทำงานในพื้นจังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดปราจีนบุรี และ กรุงเทพมหานคร พื้นที่เขตมีนบุรี โดยเข้ามาในลักษณะการลักลอบเดินเท้าผ่านช่องทางธรรมชาติ บริเวณป่าเบญจพรรณติดกับนาข้าวบ้านเนินสมบูรณ์ ตำบลบลาพระยา โดยจ่ายค่าที่พักฝั่งกัมพูชาคนละ 500 บาท จ่ายให้กับคนพาเดินชาวกัมพูชา คนละ 500 บาท และถ้าผ่านไปได้ถึงที่หมายจะต้องจ่ายอีกคนละ 6,000-8,000 บาท หลังถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปตรวจวัดอุณหภูมิ ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 พบว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ จึงได้นำตัวชาวกัมพูชาทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ตาพระยา ดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า สถานการณ์การลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายของแรงงานชาวกัมพูชา ซึ่งเพิ่มขึ้นจำนวนมากในช่วงนี้ โดยผลการจับกุมผู้ลักลอบเข้า-ออก นอกราชอาณาจักร โดยผิดกฎหมายตั้งแต่วันที่ 1-25 ตุลาคม ที่ผ่านมา ตม.สระแก้ว สามารถจับกุมชาวกัมพูชาลักลอบข้ามแดนได้ รวม 836 คน จับผู้นำพาได้ 36 คน ส่วนคนไทยจับกุมได้ทั้งขาเข้าและออก 43 คน

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ได้สั่งการให้ตรวจสอบการลักลอบเป็น 3 ชั้น คือตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้วให้ความสำคัญในการตรวจสอบรถยนต์ ที่วิ่งผ่านภายในจังหวัด และเส้นทางที่มีการลักลอบพาแรงงานไปยังจังหวัดตอนในของประเทศ ส่วนกองกำลังบูรพา มีการดูในบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และฝ่ายปกครองที่ดูแลสอดส่องในแต่ละพื้นที่หมู่บ้าน อำเภอ ของตนเอง