รวบชายตระเวนบุกเข้าบ้านชาวบ้าน ก่อเหตุอนาจาร
เช้านี้ที่หมอชิต - นอนอยู่บ้านกับสามี อยู่ดี ๆ มีใครก็ไม่รู้บุกเข้ามาในบ้าน แถมขึ้นมานอนข้าง ๆ ก่อนจะกระทำอนาจาร พอผู้เสียหายรู้สึกตัว ชายคนที่ก่อเหตุก็วิ่งหนี
เหตุการณ์นี้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาโพสต์เตือนภัย ว่าช่วง 05.00 น.วันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีคนร้ายบุกเข้ามาในบ้านพัก ซอยเดชอุดม ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา
ทีมเช้านี้ที่หมอชิตจึงลงพื้นที่ไปบ้านหลังดังกล่าว ไปสอบถามหญิงอายุ 22 ปี ผู้เสียหาย เธอเล่าว่าวันเกิดเหตุกำลังนอนอยู่กับสามี จู่ ๆ ก็มีมือมาลูบคลำบริเวณก้น ตอนแรกคิดว่าเป็นสามีตัวเอง แต่บีบแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนเธอรู้สึกเจ็บ จึงหันไปดูก็พบว่ามีชายแปลกหน้ามานอนอยู่ข้าง ๆ ตอนนั้นตกใจมาก จึงรีบปลุกสามีมาดู จังหวะนั้นชายแปลกหน้าก็ฉวยโอกาสวิ่งหนีลงไปชั้นล่างของบ้าน สามีพยายามวิ่งไล่ตามแต่ไม่ทัน จึงพากันมาย้อนดูภาพจากกล้องวงจรปิด ก็พบว่าก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะขึ้นมาในห้องนอนของเธอและสามี ยังไปรื้อค้นตู้กับข้าวและตู้เย็นเพื่อหาของกิน แถมยังมีลักษณะคล้ายดมสารระเหยด้วย จึงอยากให้ตำรวจติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เพราะในละแวกบ้านมีผู้เสียหายถูกชายคนนี้บุกเข้าไปก่อเหตุแล้ว 4 หลังคาเรือน เกรงว่าเขาจะไม่หยุดพฤติกรรมไปก่อเหตุกับบ้านหลังอื่น ๆ อีก
ส่วนชายอายุ 47 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหายอีกคน บอกว่า ในคืนเดียวกัน (20 พ.ย.) บ้านของเขาก็ถูกบุกเข้ามาก่อเหตุเช่นกัน ตอนนั้นกำลังหลับลึก ลูกสาวตะโกนร้องเสียงดัง จึงรีบไปดู ปรากฏว่าเห็นผู้ชายคนหนึ่งอยู่ในห้องของลูกสาว จากนั้นก็เกิดการต่อสู้ฉุดกระชากลากถูกัน กระทั่งชายที่ก่อเหตุออกไปพ้นรั้วบ้าน ยังมาพูดจากท้าทายว่า "แค่คดีอนาจารธรรมดา ยังไงตำรวจก็จับไม่ได้" จากนั้นก็มีชาวบ้านพยายามจะมาช่วย ชายที่ก่อเหตุจึงฉวยโอกาสวิ่งหลบหนีไป
เมื่อวานนี้ (22 พ.ย.) ชุดสืบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ได้นำกำลังเข้าไปจับกุมชายอายุ 40 ปี ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านผู้เสียหายมากนัก โดยระหว่างที่ตำรวจเข้าไปจับกุมตัว ผู้ต้องหายืนกรานปฏิเสธ ขอให้การในชั้นศาล แถมยังไม่ยอมขอโทษผู้เสียหายสักคำ
หญิงอายุ 45 ปี กรรมการดูแลชุมชนหนองไผ่ล้อม ในฐานะเป็นเพื่อนบ้านข้างเคียงผู้ก่อเหตุ บอกว่า ผู้ชายคนนี้เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในชุมชุนได้ประมาณ 1 เดือน ตอนแรกก็สังเกตพฤติกรรมแปลก ๆ ชอบพูดจาแซวเด็กผู้หญิง แถมไม่มีงานทำ กลางวันมักจะนอนอยู่ในห้อง เปิดเพลงเสียงดังมาก ส่วนกลางคืนก็มักจะออกมาเดินวนไปวนมาเข้าออกในซอย แต่ตอนนั้นก็ไม่กล้าทักทาย หรือสอบถามว่าไปไหน หรือทำอะไรมา เพราะลักษณะท่าทางดูน่ากลัวและไม่น่าไว้วางใจ กระทั่งมาเกิดเหตุ เห็นภาพในโซเชียลที่ผู้เสียหายเอามาลง ก็รู้สึกกลัว เคราะห์ดีที่ตำรวจตามมาจับตัวได้ทัน
หลังตำรวจเข้าจับกุมผู้ก่อเหตุ ชาวบ้านก็ต่างพากันโล่งใจ เพราะตั้งแต่เกิดเหตุ คนในชุมชนก็ต่างพากันหวาดระแวง กลัวว่าวันไหนชายคนนี้จะบุกเข้ามาก่อเหตุในบ้าน จึงอยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และอย่าปล่อยตัวออกมา เพราะคนแบบนี้ถือเป็นภัยกับสังคม
