แจ้งกองปราบปราม ถูกหลอกซื้อบ้านที่ยังไม่ปิดจำนอง
เจาะประเด็นข่าว 7HD - ผู้เสียหายรวมตัวร้องกองปราบปราม หลังถูกบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ทำธุรกรรมขายบ้านที่ไปประมูลได้มา แต่ปรากฏยังไม่ไปปิดหนี้จำนอง จนผู้เสียหายถูกยึดบ้าน เป็นหนี้ทั้งธนาคารและบริษัท
สลิปหลักฐานการโอนเงิน ซึ่งผู้เสียหายนำมาแสดงให้ทีมข่าว เพื่อยืนยันว่าได้โอนหนี้ผ่อนบ้านมาชำระกับบริษัทซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังแห่งหนึ่ง และจ่ายเงินให้กับบริษัทกว่าปีเศษ กระทั่งทราบว่าบริษัทไม่ได้ปิดหนี้ไถ่ถอนจำนอง จนเขาถูกธนาคารยื่นฟ้อง เสียทั้งเงินและกำลังจะเสียบ้านที่อาศัยมากว่า 10 ปี เพราะศาลมีคำสั่งให้ย้ายออกภายใน 30 วัน
นี่เป็นตัวอย่างผู้เสียหายที่ถูกบริษัทดังกล่าวขายบ้านติดบังคับคดี โดยอ้างว่าประมูลบ้านได้ มีหลักฐานเป็นเอกสารชนะประมูล หลักฐานการโอนเงิน แต่ภายหลังพบว่าบริษัทดังกล่าวไม่ได้ชำระปิดหนี้ไถ่ถอนจำนองให้
ผู้เสียหายรายนี้เปิดใจกับทีมข่าวว่า ในปี 2562 เขาไปค้ำประกันรถให้ญาติ แต่ญาติไม่ส่งต่อ ทำให้บ้านถูกไฟแนนซ์ยึด และนำไปขายทอดตลาด จากนั้นมีตัวแทนบริษัทดังกล่าวแจ้งมาว่าเป็นผู้ประมูลบ้านได้ และยื่นข้อเสนอว่าถ้าต้องการอยู่บ้านหลังเดิมให้โอนหนี้มาผ่อนจ่ายกับทางบริษัท โดยบริษัทจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่ติดจำนอง
ซึ่งเมื่อตรวจสอบไปที่ กรมบังคับคดี ก็ยืนยันว่าบริษัทดังกล่าวประมูลได้จริง จึงตกลงทำสัญญาและผ่อนจ่ายเงินตั้งแต่วันนั้นรวมกว่า 200,000 บาท แต่ไม่เคยได้รับใบเสร็จแม้แต่ครั้งเดียว เมื่อสอบถามไปทางบริษัทก็บ่ายเบี่ยง อ้างว่าเป็นขั้นตอนธุรการของบริษัท
กระทั่งมีหนังสือทวงหนี้มาจากธนาคาร และแจ้งว่าบ้านไม่ได้ชำระหนี้จดจำนอง จนเขากลายเป็นลูกหนี้ ที่ต้องแบกรับหนี้ทั้งจากธนาคารและบริษัท เพราะชื่อผู้จำนองยังคงเป็นชื่อตัวเขา
ทั้งนี้ ตำรวจกองบังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า มีผู้เสียหายที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกันทยอยเดินทางแจ้งความ รวม 49 ราย ซึ่งตำรวจสอบปากคำครบทั้งหมดแล้ว
เบื้องต้น พบผู้เสียหายแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มที่เป็นเจ้าของบ้านเดิมที่ถูกบริษัทติดต่อให้ซื้อบ้านตัวเอง หลังถูกธนาคารยึดและบริษัทไปประมูลจากธนาคาร อีกกลุ่ม คือ เจ้าของบ้านรายใหม่ ที่ซื้อผ่อนบ้านที่บริษัทไปประมูลมา แต่ทั้งหมดบริษัทไม่ได้ไปจ่ายหนี้ที่ติดจำนอง ทำให้บ้านถูกธนาคารติดหมายยึดและนำมาขายทอดตลาดอีกครั้ง
ซึ่งขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบมีการกระทำผิดจริง และพาดพิงบุคคลใดจะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาแจ้งข้อกล่าวหา เบื้องต้น พบมีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด 3-4 บริษัท ที่อยู่ในเครือเดียวกัน ส่วนตัวบุคคลยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
พรุ่งนี้มาเจาะประเด็นกันต่อว่า เราจะมีวิธีการอย่างไรในการตรวจสอบการทำธุรกรรมของบริษัทเพื่อไม่ให้เป็นเหยื่อ
