ปู่ย่าร่ำไห้ ถูกอดีตลูกสะใภ้เชิดเงินประกัน 1 แสนบาท หลบหนี
เช้านี้ที่หมอชิต - ปู่ ย่า ร่ำไห้เลี้ยงหลานมาตั้งแต่แบเบาะจนอายุ 12 ขวบ หลานชายจมน้ำเสียชีวิต แต่อดีตลูกสะใภ้กลับเชิดเงินประกันที่โรงเรียนทำไว้ให้ 100,000 บาทหนีลอยนวล
นายวิเชียร ทิทา และนางสุจิน เซียงโส สามีภรรยา ชาวอำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ นำรูปถ่าย และโกศบรรจุกระดูกของ น้องเจมจิ อายุ 12 ขวบ หลานชายที่จมน้ำเสียชีวิต เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ออกมาร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน นางสุจิน เล่าว่าหลังจากลูกชาย และลูกสะใภ้แยกทางกัน ได้นำน้องเจมจิมาให้เธอและสามีเลี้ยงดูตั้งแต่อายุ 1 ขวบ โดยที่อดีตลูกสะใภ้ไม่เคยช่วยส่งเสียเงินแม้แต่บาทเดียว ย่าต้องรับผิดชอบเลี้ยงทุกอย่างด้วยความลำบาก บางครั้งไม่มีเงินซื้อนมผงให้กิน หลานก็ต้องกินน้ำเต้าหู้ต้มผสมใส่น้ำเปล่าให้กิน จนน้องเจมจิอายุได้ 12 ขวบ ก็มาประสบเหตุจมน้ำเสียชีวิต โดยทางโรงเรียนได้ทำประกันอุบัติเหตุไว้ ซึ่งจะได้รับเงินสินไหม 100,000 บาท อดีตลูกสะใภ้ที่มาร่วมงานศพ บอกว่าจะไม่ขอรับเงินส่วนนี้เพราะไม่ได้เลี้ยงดูลูก และไม่ได้ส่งเบี้ยประกัน พร้อมเซ็นหนังสือสละสิทธิ์ไม่ขอรับเงินสินไหมจากบริษัทประกันดังกล่าว
แต่หลังจากนั้นทางบริษัทประกัน กลับแจ้งมาว่าเอกสารการมอบอำนาจไม่สมบูรณ์ ต้องส่งเอกสารมาเพิ่มเติม พร้อมแนะนำว่าหากต้องการเงินเร็วก็จะโอนเข้าบัญชีของลูกสะใภ้ ซึ่งเป็นแม่แท้ ๆ ของเด็ก จะได้ไม่เสียเวลาตรวจเอกสารใหม่ แล้วค่อยให้ลูกสะใภ้โอนเข้าบัญชีของย่า
จากนั้นครูที่โรงเรียนได้โทรศัพท์ไปสอบถามอดีตลูกสะใภ้ ก็ยืนยันว่า เงินทั้งหมดจะมอบกับให้ผู้เป็นย่าที่ได้เลี้ยงดูน้องเจมจิมา จึงตกลงให้บริษัทประกันโอนเงินไป แต่หลังจากที่บริษัทประกันโอนเงินสินไหมทดแทน เข้าบัญชีของอดีตลูกสะใภ้ไปแล้ว กลับหายไปไม่สามารถติดต่อได้อีก
นางสุจิน บอกว่า เธอเสียใจ ไม่คิดว่าลูกสะใภ้จะทำกันได้ลงคอ และสาเหตุที่ต้องมาร้องขอความเป็นธรรม เพราะอยากให้ผู้รู้ทางกฏหมายมาช่วยเหลือ เนื่องจากตอนนี้มีแค่สามีที่ทำงานรับจ้างหาเลี้ยง ส่วนเธอไม่ได้ทำงานเพราะสุขภาพไม่ค่อยดี หากลูกสะใภ้หากยังมีสำนึก ก็ควรนำเงินมาคืนด้วย