นายกฯ สั่งเฝ้าระวัง โอไมครอน เล็ดลอดตามแนวชายแดน

ข่าวภาคค่ำ - นายกรัฐมนตรี สั่งจับตาตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย หลังพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน ที่มาเลเซียแล้ว

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการให้ติดตาม และเตรียมพร้อมรับมือโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน อย่างใกล้ชิด หลังมาเลเซีย พบนักศึกษาจากแอฟริกาใต้ ที่เดินทางจากสิงคโปร์ติดเชื้อแล้ว โดยขอให้สนามบิน และด่านชายแดน คัดกรองเข้มทุกจุด พร้อมสกัดการลักลอบเข้าประเทศ ผ่านช่องทางธรรมชาติ อีกทั้งเชื่อว่า การฉีดวัคซีนที่ครอบคลุมและครบโดส จะช่วยลดอาการรุนแรงของโรคทั้งสายพันธุ์เดลตา และโอไมครอนได้

ด้านพลตำรวจตรีอาชยน ไกรทอง รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยถึงการตรวจสอบ หาบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศในทวีปแอฟริกา จำนวน 783 คน ที่เข้าไทยตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะนี้พบแล้ว 257 คน แต่ยังไม่มีใครติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน ส่วนที่เหลืออีกกว่า 500 คน มีทั้งผู้ที่กลับประเทศไปแล้ว ผู้ที่อยู่ระหว่างกักตัว และที่อยู่ระหว่างติดตามตัว โดยได้สั่งให้เพิ่มความเข้มงวด ตรวจสอบการเข้าประเทศ ทั้งทางอากาศ และด่านชายแดน โดยเฉพาะภาคใต้ เพื่อคุมเข้มผู้ที่มาจากทวีปแอฟริกา และประเทศอื่น ๆ เนื่องจากเชื้อได้แพร่กระจายไปหลายประเทศแล้ว

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยภาพรวมทั้งประเทศ มีผู้ที่มีภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อโดยธรรมชาติ และการฉีดวัคซีนแล้ว 58.7 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 41.3 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่มีภูมิคุ้มกัน

ซึ่งจากสำรวจภูมิคุ้มกันในคนไทย ที่ยังไม้ฉีดวัคซีน และไม่มีประวัติป่วยโควิด-19 จำนวน 26,717 คน กว่า 30 จังหวัด ภาพรวม พบผู้มีภูมิคุ้มกัน 1.4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว จึงย้ำให้เข้ารับการฉีดวัคซีน เพื่อความปลอดภัย และลดความรุนแรงของโรค

ส่วนภาพรวมการฉีดวัคซีนทั่วประเทศ รายงานผ่านระบบหมอพร้อม ฉีดสะสมทะลุกว่า 95.1 ล้านโดส ยังเหลืออีก 4.8 ล้านโดส จึงจะครบตามเป้าหมาย 100 ล้านโดส

ส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มขึ้น 5,896 คน สูงกว่าช่วง 5 วันที่ผ่านมา ที่ติดเชื้ออยู่หลัก 4,000 กว่าคนต่อวัน และยอดติดเชื้อในเรือนจำ ที่ต้องขังก็กระโดดขึ้นจากหลักร้อยกว่าคน มาอยู่ที่ 1,127 คน โดยขณะนี้มีผู้ที่รักษาอยู่ 72,954 คน และเสียชีวิตเพิ่ม 37 คน