คอลัมน์หมายเลข 7 : เปิดผลสอบโกงเงินเยียวยาชาวนาปราจีนบุรี

ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 ตามต่อปมสวมสิทธิ์รับเงินเยียวยาเกษตรกรที่ตำบลกระทุ่มแพ้ว อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี กรณีผู้ใหญ่บ้านใช้ชื่อภรรยามาสวมสิทธิ์เกษตรกรคนอื่น จับได้ไล่ทัน มีบทสรุปอย่างไร ติดตามจากคุณสมจิตต์ นวเครือสุนทร

ตามที่คอลัมน์หมายเลข 7 ได้นำเสนอปัญหาที่ นายเอกชัย เหมือนวอน ชาวนาตำบลกระทุ่มแพ้ว อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี ถูกสวมสิทธิ์รับเงินเยียวยาเกษตรกรของรัฐบาล ทั้งที่เป็นผู้ปลูกข้าวตัวจริง มีสัญญาเช่าที่ดินเนื้อที่กว่า 30 ไร่ กับภรรยาผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่ง มีสัญญาเช่าชัดเจน แต่ผู้ใหญ่บ้านกลับดึงชื่อเขาออกจากการรับเงินเยียวยาตามโครงการประกันรายได้ข้าวปี 2564/2565 นำชื่อภรรยาตัวเองที่เป็นเจ้าของที่ดินไปสวมรอยแทน รับเงินเยียวยาไปจำนวน 2 ครั้ง รวมยอดเงินกว่า 54,000 บาท

หลังมีการร้องเรียน นายอำเภอบ้านสร้าง ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง สรุปผลวันนี้ พบมีการกระทำผิดเกิดขึ้นจริง

แม้ว่าผลสรุปจะชัดเจนว่ามีผู้ทำผิด แต่กระบวนการคืนสิทธิ์ให้กับผู้ที่ถูกสวมสิทธิ์กลับยังล่าช้า และยังมีการกล่าวหาเพิ่มเติมด้วยว่ามีความพยายามไกล่เกลี่ยให้แบ่งเงินกัน 50-50 ระหว่างผู้สวมสิทธิ์กับผู้ถูกสวมสิทธิ์ แต่ผู้ถูกสวมสิทธิ์ไม่ยอมเกี้ยเซียะด้วย ขอให้ดำเนินการให้ถึงที่สุด เพราะเป็นเงินหลวง

เงินแผ่นดินไม่ใช่ซื้อของในตลาดสด จะต่อรองกันแบบนี้ย่อมไม่ถูกต้อง กระบวนการตรวจสอบเรื่องนี้จึงต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด อย่าให้มีการช่วยพรรคพวก และต้องไม่ให้เงินรั่วไหลไปถึงคนโกง

ในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง โรคระบาดรุมเร้า รัฐบาลกู้เงินมาแล้ว 1.5 ล้านล้านบาท และมีแนวโน้มอาจต้องกู้เพิ่ม เงินทุกบาท ทุกสตางค์ ต้องใช้ให้ตรงจุด ถึงมือผู้เดือดร้อนจริง อีกหนึ่งโจทย์ใหญ่ที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ เพื่อให้เงินภาษีของประชาชนรั่วไหลน้อยที่สุด