เร่งแก้ปัญหาประมงสวมทะเบียนเรือ

เจาะประเด็นข่าว 7HD - พบเรือประมงชลบุรี สมุทรสาคร สวมทะเบียนทำประมงละเมิดกฏ IUU ชี้แพปลา และโรงงานอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ต้องร่วมรับผิดด้วย ฐานให้การสนับสนุนการทำประมงที่ผิดกฎหมาย เชื่องานนี้มีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกระทำผิด

หลังจากไปพูดคุยกับกลุ่มประมงพื้นบ้าน ซึ่งมีมากกว่า 30,000 ลำ ใน 22 จังหวัด ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวานนี้

วันนี้ พลตำรวจโท สุรเชษฐ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่พูดคุยกับตัวแทนจากสมาคมประมงแห่งประเทศไทย ซึ่งกำกับดูแลการทำประมงเชิงพาณิชย์ ที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อรับฟังปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำประมงละเมิดเงื่อนไข IUU รวมถึงการค้าแรงงานประมงที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์

ทั้งนี้ พบว่าปัญหาการค้ามนุษย์ในภาคการประมง ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (2563-2564) มีรายงานลูกเรือตกน้ำมากถึง 230 คน ซึ่งจากนี้ไปจะต้องคลี่คลายให้เร็วที่สุดเพื่อสร้างความเป็นธรรม และป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ ไม่เช่นนั้นไทยอาจเสี่ยงถูกคาดโทษจาก EU ถึงขึ้นติดธงเหลืองอีก

โดยภายหลังการประชุมผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้บุกไปตรวจสอบเรือแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งพบว่ามีการนำเรือสวมทะเบียนมาขึ้นคานซ่อมแซม โดยมีการทาสีปิดทับเลขรหัสเรือ ซึ่งผู้ครอบครองอ้างว่าซื้อมาจากชาวประมงอีกทอดในราคา 400,000 บาท

นอกจากนี้ยังพบว่า มีเรือประมงอีกหนึ่งลำในจังหวัดชลบุรี ที่แจ้งขอปิดระบบติดตามการทำประมง หรือ VMS โดยแจ้งว่าเรือจม ระหว่างการทำประมง แต่เมื่อทีมนักประดาน้ำของกองบังคับการตำรวจน้ำไปดำตรวจสอบ กลับไม่พบตามที่แจ้ง แต่พบเรือขนาด 25 ตันกรอส ถูกนำมาสวมทะเบียนแทนเพื่อทำประมงแทน

พลตำรวจโท สุรเชษฐ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า การสวมทะเบียนเรือ และนำมาทำการประมงในน่านน้ำ ถือเป็นละเมิดกฎ IUU อย่างร้ายแรง เจ้าของเรือจะต้องถูกดำเนินคดีข้อหาทำประมงผิดกฎหมาย ขณะที่แพปลาที่รับซื้อปลาจากเรือประมงลำดังกล่าวก็จะมีความผิด เช่นเดียวกับโรงงานอุตสาหกรรมที่รับซื้อปลาจากแพปลาดังกล่าว มาแปรรูป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนรู้เห็นอย่างไร และจะต้องดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด