โอมิครอนหลบหลีกวัคซีน แต่ต้องฉีดวัคซีน
เช้านี้ที่หมอชิต - สำหรับโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่ตอนนี้เป็นสายพันธุ์ที่แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว และกำลังจะมาแทนที่สายพันธุ์เดลตาอันใกล้นี้ แม้อัตราผู้ป่วยหนักจะไม่มากเท่าสายพันธุ์เดลตา แต่ก็ประมาทไม่ได้ การฉีดวัคซีนถือว่าจำเป็นมาก เพราะจะทำให้ลดอัตราการป่วยหนัก และเสียชีวิตจากสายพันธุ์โอมิครอนได้
โดยเมื่อวานนี้ เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 เผยแพร่ข้อมูลขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ว่า โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน อาจก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยจนเสียชีวิตได้ในกลุ่มคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน กลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว โดย นายแพทย์ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโครงการฉุกเฉินของ WHO กล่าวว่า คนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนมีความเสี่ยงสูงขึ้นที่จะป่วยหนักและเสียชีวิตจากโอมิครอนได้
ก่อนหน้านี้ ศาสตราจารย์นายแพทย์ ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ออกมาโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวด้วยว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน หลบหลีกภูมิต้านทานจากวัคซีนได้ ไม่ว่าจะเป็นแอสตราเซนเนกา หรือวัคซีนชนิด mRNA จึงทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง ประกอบกับระยะฟักตัวของโรคสั้น จึงต้องใช้ระดับภูมิต้านทานที่สูงอยู่ตลอดเวลาในการป้องกันการติดโรค เมื่อภูมิต้านทานลดลงก็ไม่สามารถที่จะป้องกันได้ แต่กระบวนการกำจัดหรือหายจากโรค อาศัยระบบภูมิต้านทานส่วนอื่นด้วย จึงทำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนมีอาการของโรคน้อยลง และจะหายจากโรคได้เร็วกว่า
นอกจากนี้ เมื่อวาน คุณหมอยง ยังโพสต์ย้ำอีกว่า แม้โอมิครอนจะหลบหลีกวัคซีนได้แต่ก็เป็นบางส่วน ไม่สามารถหลบได้ทั้งหมด ดังนั้น จึงจำเป็นที่ต้องใช้ระดับภูมิต้านทานที่สูงขึ้น โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน มีระยะฟักตัวสั้น แต่ร่างกายไม่สามารถกระตุ้นภูมิให้ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จึงทำให้ติดเชื้อได้
ถึงแม้ว่าวัคซีนจะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อโอมิครอนได้สมบูรณ์ แต่สามารถลดอาการความรุนแรงได้ จึงมีความจำเป็นต้องได้รับวัคซีน และมีการกระตุ้นให้ภูมิสูงตลอด
ขอบคุณภาพจาก : Facebook Yong Poovorawan