ตีตรงจุด : ของขวัญวันครูแห่งชาติ เร่งแก้หนี้ครู 1.4 ล้านล้านบาท
เจาะประเด็นข่าว 7HD - ตีตรงจุด กับความคืบหน้าของการแก้ปัญหาหนี้สินครู ที่มียอดรวมกันทั่วประเทศถึง 1.4 ล้านล้านบาท ปีนี้ภาระหนี้ของครูยังคงมุ่งยุบยอดหนี้ ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อให้ครูผ่อนสบายมีเงินเหลือใช้เพิ่มขึ้น
ยังคงเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างเรื้อรัง สำหรับปัญหาหนี้สินครู และบุคลากรทางการศึกษา ใต้ปีกกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีอยู่ราวกว่า 900,000 คน โดยเป็นกลุ่มเกษียณอายุราชการไปแล้ว และยังอยู่ในระบบ คิดเป็นมูลหนี้รวมกันกว่า 1.4 ล้านล้านบาท
แบ่งเป็นหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูมากที่สุด รองมาคือธนาคารออมสิน และสถาบันการเงินอื่น ๆ รวมถึงบัตรเครดิต ซึ่งยังไม่รวมหนี้นอกระบบที่ยังซุกอยู่ จนมีรายงานว่าครูที่มีภาระหนี้จำนวนไม่น้อยมีเงินเดือนทำงานเหลือใช้หลังจ่ายหนี้แล้วไม่ถึงร้อยละ 10 ของเงินเดือน เช่น ครูมีเงินเดือน 50,000 บาท เมื่อชำระหนี้แล้วจะมีเงินเหลือใช้เดือนละไม่ถึง 5,000 บาท หรือ เฉลี่ยวันละ 166 บาท หรือ ครูเงินเดือน 30,000 บาท จะมีเงินเดือนเหลือหลังจ่ายหนี้ไม่ถึง 3,000 บาท เฉลี่ยมีเงินใช้วันละกว่า 100 บาทเท่านั้น หรือบางคนถูกหักหนี้ไว้จนไม่เหลือเงินใช้ก็มี
นำไปสู่แผนการแก้ไขทั้งการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อยุบยอดหนี้, การปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้เหลือไม่เกิน 4.5-5%, การจำกัดผู้กู้เงิน ซึ่งจะกู้ได้ต้องมีเงินเหลือไม่ต่ำกว่า 30% ของเงินเดือน หลังจ่ายหนี้ในเดือนนั้น ๆ, การปรับลดค่าธรรมเนียมประกันที่ไม่จำเป็น และยกระดับปรับปรุงระบบตัดชำระหนี้ รวมทั้งการส่งเสริมให้ครูออมเงินเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะครูรุ่นใหม่ ๆ
เบื้องต้นได้เร่งแก้หนี้กลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแล้ว ซึ่งมีสหกรณ์ฯ สนใจเข้าร่วมโครงการแก้หนี้ครูแล้ว 33 แห่ง จาก 116 แห่ง เพื่อให้ครูโดยเฉพาะรายที่มีอาการโคมา เพราะรายได้ต่อเดือนไม่พอจ่ายหนี้ และกำลังจะถูกฟ้องร้องดำเนินคดี คาดว่ามีอยู่ในระบบราว 1 ใน 4 ของจำนวนครูที่เป็นหนี้ โดยได้มีการหารือกับ 4 สถาบันการเงิน ซึ่งพร้อมปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำไว้ช่วยเหลือกลุ่มครูที่มีภาระหนี้แล้ว
หวังว่าปัญหาหนี้ครูจะเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นตั้งแต่ปีนี้ และสามารถสร้างความสุขใจให้กับครู เพื่อให้มีขวัญกำลังใจในการทำหน้าที่เรือจ้าง มอบเป็นของขวัญวันครูแห่งชาติที่กำลังจะเวียนมาถึงนี้ด้วย