ดรามาอาหารราคา 3 หมื่นบาท แพงเกินจริง จ.นครพนม

เช้านี้ที่หมอชิต - ส่วนข่าวนี้ ฮือฮาตลอดทั้งวันเมื่อวานนี้ กับใบเสร็จค่าอาหาร ราคากว่า 30,000 บาท กับปริมาณอาหารที่ดูแล้วแทบไม่คุ้มราคา คนโพสต์ถึงกับร้องถามหา สคบ. ขณะที่ล่าสุดทางร้านอาหารก็ออกมาชี้แจงแล้ว

เรื่องนี้เริ่มต้นมาจากโพสต์เฟซบุ๊กหนึ่ง ที่โพสต์ภาพใบเสร็จร้านอาหารแห่งหนึ่ง ระบุว่า อยู่ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองนครพนม พร้อมข้อความ "ประสบการณ์ร้านอาหารในนครพนม สคบ. สรรพากร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยด้วย เหมือนผมโดนปล้นที่ร้านอาหารเลยครับ"

พร้อมกับมีภาพประกอบ ปีกไก่ทอดน้ำปลา จานที่เห็น 1,000 บาท ในภาพมี 2 จาน รวม 2,000 บาท, กระเพาะปลาน้ำแดง 1 หม้อ หม้อขนาดประมาณ 20 นิ้ว หม้อเดียว ราคาอ่านไม่ผิดแน่ ๆ 5,000 บาท, ทะเลลวกจิ้ม จานนี้จานเดียว 1,000 บาท

แต่ที่ติดใจมากเป็นที่สุดก็คือ ราคาน้ำแข็ง มีน้ำแข็ง 2 แบบ น้ำแข็งแช่ถังเบียร์สด 1,000 บาท และน้ำแข็งอีก 111 ถัง คิดราคา 2,220 บาท

หลังโพสต์นี้ถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์กันมากมาย และเสียงแตกเป็น 2 ฝั่ง บางคนก็ตั้งคำถามว่า คนโพสต์ออกตัวแรงไปหรือเปล่า เป็นการโพสต์สร้างกระแสหรือไม่ และบางคนก็เข้ามาถามว่า อาหารที่เห็น เป็นการตักแบ่งใส่จานมาหรือเปล่า อาจจะเป็นทางร้านทำมาเป็นถาดใหญ่ ๆ แล้วก็ตักแบ่งใส่จาน ให้ลงตัวกับคน 30 คน หรือเปล่า

บางคนก็บอกว่า ปีกไก่ทอดจานนี้ 250 บาท ก็ยังถือว่าแพง และบางคนก็บอกให้ทางร้านออกมาชี้แจงเรื่องราวทั้งหมด

ทีมข่าวเช้านี้ที่หมอชิต ติดต่อไปพูดคุยกับคนที่โพสต์ทันที ก็คือ นายเกียรติภูมิ ศิริวรเดชกุล อายุ 54 ปี มีอาชีพเป็นไกด์นำเที่ยว และยังมีเพื่อนอีก 1 คน คนที่นั่งข้าง ๆ ชื่อคุณตั้ว (ผู้หญิง ไม่ขอเปิดเผยชื่อจริง) ที่มาร่วมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย

โดยทั้งสองคนบอกว่า เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา ได้มีนัดพบปะสังสรรค์เพื่อน ๆ ประมาณ 30 คน และจองสถานที่ร้านดังกล่าว จ้างวงดนตรี และสั่งอาหารและเครื่องดื่ม โดยคิดในราคาเหมาจ่าย ตอนแรกก็ไม่ได้ติดใจเรื่องราคา เพราะเข้าใจดีว่าเป็นการเหมาจ่าย และได้วางเงินมัดจำไปก่อนหน้านี้ 10,000 บาท ซึ่งถ้าคิดเป็นรายหัว 30 คน ก็คนละ 1,000 กว่าบาท แต่ที่ติดใจ เมื่อมาเห็นปริมาณอาหารที่มันน้อยกว่าความเป็นจริงมาก ไม่สมน้ำสมเนื้อกับเงินที่จะต้องจ่ายไป ยกตัวอย่าง ไก่ทอดน้ำปลา ที่เห็นก็มาเป็นจาน 2 จาน จริง ๆ ไม่มีมาเป็นแบบถาดใหญ่ ๆ มาตักแบ่งกัน แล้วยังมีเม็ดมะม่วงหิมพานต์โรยแต่เกลือกับต้นหอม 1 จาน คิดราคาสูงถึง 1,500 บาท เนื้อทอดแดดเดียว 1 จาน ตามภาพที่เห็น ราคา 2,000 บาท

โดยสิ่งที่เกิดขึ้น คุณเกียรติภูมิ และเพื่อน ๆ จึงตัดสินใจไม่ยอมจ่ายเงินส่วนที่เหลือ แต่ได้ถ่ายภาพบัตรประชาชน และให้เบอร์โทรศัพท์กับทางร้านไว้ เพื่อยืนยันว่าจะไม่หลบหนี และได้นำเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาโพสต์ เพียงเพราะต้องการให้ทางร้านออกมาชี้แจง และปรับปรุงแก้ไข ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร แต่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตรการป้องปราม ไม่ให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัด และไม่ต้องการให้คนอื่น ๆ ตกเป็นเหยื่อร้านค้า ที่ฉวยโอกาสขึ้นราคาอาหาร และเครื่องดื่มแบบขูดเลือดขูดเนื้อแบบนี้

ขณะที่ทีมข่าวไปที่ร้านอาหารตามที่เป็นข่าว โดยทางเจ้าของร้านซึ่งอยู่นอกพื้นที่ เปิดเผยข้อมูลทางโทรศัพท์ว่า มีการตกลงราคากันก่อนที่ลูกค้าจะมาจัดเลี้ยงที่ร้าน ตามราคาที่ระบุตามบิล ซึ่งยืนยันว่าใช้วัตถุดิบทำอาหารที่มีคุณภาพราคามาตรฐาน และไม่มีเจตนาฉวยโอกาสขึ้นราคา คิดราคาแพงเกิน อาจจะมีความผิดพลาดเรื่องปริมาณ หรือการจัดเมนู โดยพร้อมที่จะเจรจากับลูกค้า ลดราคาให้ตามสัดส่วน และพร้อมที่จะไม่คิดเงินที่เหลือหากลูกค้าไม่พอใจ และยังขอความเมตตาจากลูกค้าทุกท่าน ย้ำว่าทางร้านไม่เคยคิดฉวยโอกาส แต่อาจมีความผิดพลาดในการคิดราคา และพร้อมที่จะดูแลลูกค้าทุกท่าน หากผิดพลาดขอกราบขอโทษลูกค้า และพร้อมที่จะร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวให้จังหวัดนครพนม ส่วนบิลที่คิดเงินลูกค้าระบุว่าแพง จะมีการตรวจสอบพิจารณาตามความเป็นจริง ยอมรับในความผิดพลาด

ขณะที่ทางผู้สื่อข่าวสอบถามพนักงานในร้านเรื่องน้ำแข็ง 111 ถัง พนักงานเสิร์ฟในร้านก็ตักน้ำแข็งมาให้ดู ก็เป็น 1 ถังตามที่เราเห็นในภาพ ก็เหมือนกับร้านปกติเสิร์ฟกัน ก็เลยถามว่าเสิร์ฟ 111 ถังจริงหรือไม่ น้องเด็กเสิร์ฟก็บอกว่า "ครับ" แล้วถ้ามาคิดเงินหารเฉลี่ยต่อ 1 ถัง 2,220 บาท หาร 111 ถัง ก็ตกอยู่ถังละ 20 บาท

ส่วนราคาอาหารของทางร้าน เมื่อไปดูในเมนูปกติของทางร้าน ราคาก็ไม่แตกต่างจากร้านอาหารทั่ว ๆ ไป อย่างเช่น ทะเลลวกจิ้ม ราคาจานละ 299 บาท ส่วนเมนูไก่ทอดน้ำปลา ไม่มีในเมนูของทางร้าน แต่มีเมนูใกล้เคียงก็คือ ไก่ทอดสมุนไพร ราคาจานละ 179 บาท

ล่าสุด ทีมงานทราบว่า วันนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางจังหวัดนครพนม จะมีการนัดหมายให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาพูดคุยกัน โดยเฉพาะทางเจ้าของร้าน ซึ่งเมื่อวานนี้ติดภารกิจอยู่นอกพื้นที่ ก็จะเดินทางมาชี้แจงเรื่องนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง

ขอบคุณภาพจาก : Facebook Kiattiphum Kiam Sirivoradechkul