ข่าวในหมวด ประเด็นร้อนออนไลน์

ตอบแล้ว เหรียญ 1 บาท ล้วนๆ ชำระหนี้ เกิน 500 บาท ได้หรือไม่?


เพจ สำนักงานกิจการยุติธรรม โพสต์ข้อมูลควรรู้ กรณีเหรียญ 1 บาท ชำระหนี้ เกิน 500 บาท ได้หรือไม่  โดยระบุว่า

"มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์ มีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน" วันนี้แอดมาเป็นกลอนกันเลยทีเดียว การเก็บเงิน เก็บหอมรอมริบ เพื่อที่จะซื้อของให้ตัวเองเป็นเรื่องที่ดีนะ ว่าแต่ว่า ถ้าเราใช้แต่ “เหรียญ 1 บาท” อย่างเดียว ในการซื้อของแบบพวกโทรศัพท์มือถือจะทำได้มั้ยนะ?

ไม่ได้นะจ๊ะ เพราะตามกฎหมายได้กำหนดให้เหรียญ 1 บาท ใช้ชำระหนี้ได้ในจำนวนคราวละไม่เกิน 500 บาท ถ้าจะซื้อโทรศัพท์มือถือที่มีราคามากกว่า 500 บาท จึงไม่สามารถใช้เหรียญบาทอย่างเดียวไปซื้อได้นะ

ยังมีเรื่องการชำระหนี้ด้วย "เหรียญกษาปณ์" เราต้องรู้อีกนะ ว่าจะสามารถใช้เหรียญชำระหนี้ได้คราวละไม่เกินเท่าไร?

- เหรียญ 25 หรือ 50 สตางค์ ชำระหนี้ได้คราวละไม่เกิน 10 บาท
- เหรียญ 1 บาท ชำระหนี้ได้คราวละไม่เกิน 500 บาท
- เหรียญ 2 บาท ชำระหนี้ได้คราวละไม่เกิน 500 บาท
- เหรียญ 5 บาท ชำระหนี้ได้คราวละไม่เกิน 500 บาท
- เหรียญ 10 บาท ชำระหนี้ได้คราวละไม่เกิน 1,000 บาท

ทั้งนี้ จุดประสงค์ของการกำหนดจำนวนเหรียญที่ใช้ชำระแต่ละครั้งตามข้างต้น เพื่อป้องกันไม่ให้มีการกลั่นแกล้งกัน ซึ่งหากมีการใช้เหรียญชำระหนี้ต่างๆ ในจำนวนที่เกินจากที่กฎหมายกำหนด ผู้รับมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ โดยไม่มีความผิดตามกฎหมาย

ในกรณีที่ออมเงินไว้เป็นเงินเหรียญจำนวนมาก สามารถ "ฝากเงิน" ที่ธนาคารต่างๆ ก่อนถอนออกมาชำระหนี้ หรือชำระหนี้กับธนาคารได้โดยตรง โดยอาจมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละธนาคาร นอกการฝากเงินด้วยเหรียญ หรือชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ธนาคารแล้ว ยังมีช่องทางของ "กรมธนารักษ์"  https://www.treasury.go.th/th/coin-contact/ หรือโทรศัพท์ติดต่อ : 02-834-8300

ในกรณีที่มีเหรียญจำนวนมาก สามารถติดต่อขอแลกเหรียญได้ที่ สำนักบริหารเงินตรา กรมธนารักษ์

หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมหรือพบธนาคารพาณิชย์ปฏิเสธรับฝากเหรียญ สามารถสอบถามรายละเอียดและร้องเรียนได้ที่ ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) โทรหมายเลข 1213

BUGABOONEWS
ขอบคุณข้อมูลจากเพจ สำนักงานกิจการยุติธรรม


ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark