ก.พาณิชย์ ขยายเวลาคุมราคาสินค้า 46 รายการ อีก 1 ปี

ข่าวภาคค่ำ - คณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ขยายระยะเวลาตรึงราคาสินค้าควบคุม 46 รายการ ออกไปอีก 1 ปี หวังบรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชน

การประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือ กกร. ซึ่ง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน มีมติขยายเวลา ตรึงราคาสินค้าควบคุม 46 รายการ, บริการ 5 รายการ ต่อไปอีก 1 ปี จากเดิมจะหมดอายุในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องควบคุมราคาสินค้า และตรึงราคาไว้ให้ได้นานที่สุด เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน แม้ช่วงนี้ผู้ผลิตหลายบริษัทจะยื่นเรื่องขอปรับขึ้นราคาสินค้าจากภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตรามาม่า ก็ยังไม่ให้ปรับราคาตามคำร้องขอ

ขณะที่ภาคการผลิตแสดงความกังวลที่ภาครัฐขยายมาตรการตรึงราคาสินค้า ตัดพ้อสถานการณ์ปัจจุบันถือว่ารุนแรงที่สุดเท่าที่เคยเผชิญมา เชื่อว่าหากผู้ผลิตไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนต่อไปได้คงชะลอกำลังผลิตลง หรือ หยุดการผลิตเป็นการชั่วคราว แน่นอนว่าสินค้าจะขาดตลาด

ด้าานภาคการค้า นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย ประเมินว่า ต่อไปภาคการแข่งขันในตลาดอาจมีปัญหา ผู้ประกอบการรายเล็กเงินทุนน้อย จะได้รับผลกระทบหนักที่สุดอาจถึงขั้นปิดกิจการ ภาพสินค้าขาดตลาดจะทยอยปรากฎให้เห็น แนะรัฐแสดงสปิริต ปรับลดค่าการกลั่นน้ำมัน และลดค่าไฟฟ้า มากกว่าการไม่อนุญาตให้ขึ้นราคา

นักเศรษฐศาสตร์มองว่า ตลาดยังเป็นของผู้บริโภค ผู้ผลิตคงไม่ต้องการปรับราคา เพราะมีผลต่อการแข่งขัน รวมทั้งได้ปรับลดประมาณการณ์เศรษฐกิจลง จาก 4.2% เหลือ 3.1%

ส่วนการประชุมทีมเศรษฐกิจซึ่งนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบขยายเวลามาตรการช่วยเหลือ ที่ใกล้หมดเดือนนี้ ออกไปอีกจนถึงกันยายน และขอความร่วมมือกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน ให้นำส่งกำไรจากน้ำมันดีเซล 5,000-6,000 ล้านบาท และน้ำมันเบนซิน 1,000 ล้านบาทต่อเดือน เข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อนำไปลดราคาน้ำมันเบนซินให้กับผู้ใช้ 1 บาทต่อลิตรทันที โดยจะเก็บตั้งแต่เดือนกรกฎาคม - กันยายน และจะขอความร่วมมือโรงแยกก๊าซ แบ่งกำไรส่วนเกิน 50% เข้ากองทุนฯคาดว่าจะจัดเก็บได้ 1,500 ล้านบาทต่อเดือน เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้า