ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

ร้องตำรวจ บก.ปคม.ดำเนินคดีศูนย์ดูแลเด็ก จ.สมุทรปราการ เชื่อมีการทารุณกรรมเด็กพิเศษ

เจาะประเด็นข่าว 7HD - แม่ของเด็กหญิงวัย 8 ขวบ ซึ่งเป็นเด็กพิเศษ เข้าแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีกับเจ้าของศูนย์รับดูแล และฝึกพัฒนาการเด็ก ในจังหวัดสมุทรปราการ หลังพบว่าบุตรสาวมีพัฒนาแย่ลง และตามร่างกายพบแผลเป็นหลายแห่ง เชื่อว่าบุตรสาวน่าจะถูกกระทำทารุณกรรม

เคสนี้ต้องบอกว่าช่อง 7HD เสนอเป็นข่าวไปครั้งหนึ่งเมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยเป็นช่วงที่แม่ของเด็กหญิงซึ่งเป็นเด็กพิเศษ ได้รับบุตรสาวออกจากศูนย์รับดูแล และฝึกพัฒนาการเด็ก ที่จังหวัดสมุทรปราการ กลับไปดูแลที่บ้านในต่างจังหวัด และไปพบว่าตามร่างกายของบุตรสาวมีร่องรอยแผลเป็นหลายแห่ง อาทิ แผลเป็นที่หางคิ้ว แผลเป็นคล้ายรอยเล็บที่ต้นแขน-ต้นขา แผลเป็นขนาดใหญ่ที่ข้อเท้า คล้ายกับเด็กถูกล่ามเอาไว้ รวมถึงแผลติดเชื้อที่ก้นและอวัยวะเพศ ซึ่งแม่ของเด็กหญิงได้เข้าร้องเรียนกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม จนมีการนำเรื่องไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ กระทั่งกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ และมีคำสั่งปิดศูนย์ฯ ดังกล่าว เป็นการชั่วคราว แต่ในส่วนของคดีความที่แจ้งความไว้ไม่มีความคืบหน้า

วันนี้ ผู้เสียหายจึงได้เข้าแจ้งความกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ หรือ บก.ปคม. เพื่อให้ดำเนินคดีกับเจ้าของศูนย์ฯ ซึ่งพบว่าเป็นจิตแพทย์ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง รวมถึงครูผู้ดูแลเด็ก รวม 3 คน โดยผู้เสียหายเปิดเผยว่า ได้ส่งบุตรสาวไปให้ศูนย์ดูแล เพื่อฝึกพัฒนาการ เมื่อเดือนกันยายน 2563 แรก ๆ ก็ไม่พบความผิดปกติ จนกระทั่นต้นปี 2564 ทางศูนย์ฯ ได้แจ้งงดเยี่ยมเด็กเนื่องในสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ไม่ได้พบกับบุตรสาวเลย จนกระทั่งช่วงปลายเดือนเมษายน ได้ไปรับบุตรสาวกลับบ้านจึงพบความผิดปกติ ซึ่งนอกจากร่างกายที่ผอมมาก ซึ่งครูผู้ดูแลอ้างว่าเด็กกินน้อย และมีบาดแผลเป็นที่ข้อเท้า ที่อ้างว่าเกิดจากการใส่ถุงทรายถ่วงน้ำหนักเนื่องจากเด็กเดินเขย่ง ก็พบกับแผลเป็น และแผลติดเชื้ออีกหลายแห่ง บุตรสาวมีพัฒนาการแย่ลง จากที่เคยเปล่งเสียงร้องออกมาได้เวลาจะสื่อสารกับผู้อื่น ตอนนี้เวลาบุตรสาวร้องไห้ จะมีเพียงท่าทาง และน้ำตาที่ไหลออกมาเท่านั้น แต่ไม่มีเสียงร้องออกมา เมื่อคาดคั้นสอบถามความจริงที่เกิดขึ้น เจ้าของศูนย์ฯ จึงยอมรับว่าดูแลบุตรสาวของตนไม่ดีจริง แผลเป็นที่ข้อเท้าก็เกิดจากการผูกล่ามเด็กเอาไว้ไม่ให้เดินซนไปทั่ว และขอเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ตนเองรับไม่ได้ เพราะเชื่อว่าที่บุตรสาวตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ เกิดจากการถูกกระทำทารุณ

ด้าน นายรณณรงค์ ก็เปิดเผยว่า เรื่องคดีความที่ไม่คืบหน้า เป็นเพราะตำรวจไม่สามารถสอบปากคำผู้ปกครองเด็กอีกประมาณ 10 คนได้ เพราะส่วนใหญ่ไม่ได้ติดใจการทำหน้าที่ของเจ้าของและครูในศูนย์ฯ เชื่อว่าทางเจ้าของศูนย์น่าจะมีการดำเนินการบางอย่าง เพื่อปกปิดเรื่องที่เกิดขึ้นเอาไว้แล้ว

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark