ผู้ว่าฯ ชุมพร ย้ำจำเป็นต้องส่ง อส.คุมเข้มเกาะสัมปทานรังนก ปัดคุกคามทีมสารคดีต่างประเทศ

เจาะประเด็นข่าว 7HD - ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ยืนยัน ส่งอาสาสมัครรักษาดินแดนไปพิทักษ์เกาะสัมปทานรังนก ที่ยังไม่มีผู้ประมูลตามอำนาจหน้าที่ ไม่ได้มีเจตนาคุกคามทีมถ่ายทำสารคดีจากต่างประเทศ

หลังช่อง 7HD เสนอข่าวเกี่ยวกับทีมถ่ายทำสารคดีต่างประเทศ ถูกอาสาสมัครรักษาดินแดนบนเกาะรังนก ใช้ถ้อยคำและท่าทีเสมือนคุกคาม ไม่ให้ทีมงานเข้าไปในเกาะรังนก ทั้งที่มีหนังสือขออนุญาตถูกต้องจนทีมงานต้องล่าถอยกลับเข้าฝั่ง

เรื่องนี้มีคำชี้แจงจากผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ว่าเป็นการปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เป็นอำนาจของจังหวัดในการพิทักษ์ผลประโยชน์ของประชาชน จึงส่งกำลัง อส.เข้าไปดูแลพื้นที่ เพื่อไม่ให้ใครไปรบกวนหรือสร้างปัญหาบนเกาะ ที่สำคัญเป็นช่วงระหว่างที่นกกำลังวางไข่

ทั้งนี้ สัมปทานรังนกในพื้นที่จังหวัดชุมพร มี 3 ใน 5 สัญญาได้หมดอายุสัมปทาน และทำการเปิดประมูลไปแล้ว 1 ครั้ง แต่ยังไม่มีผู้ชนะการประมูล โดยรายได้จัดเก็บรังนก 90% ลงสู่ท้องถิ่น 9% เป็นรายได้ของจังหวัด มีเพียง 1% ที่ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ดูแล จึงต้องดูแลใกล้ชิดระหว่างว่างเว้นสัมปทาน

ข้อมูลของทีมวิจัยจากสภาการวิจัยแห่งชาติ ในรอบ 10 ปี พบจำนวนรังนกนางแอ่นถ้ำในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ ลดลงอย่างต่อเนื่อง สาเหตุคือการจัดเก็บรังนกของบริษัทสัมปทาน ที่ควรเก็บสี่เดือนหนึ่งครั้ง แต่บางแห่งจัดเก็บทันทีโดยที่นกยังไม่ทันวางไข่ขยายพันธุ์ 

ขณะเดียวกันก็พบว่า ความพยายามสร้างบ้านนกของชาวบ้านในหลายจังหวัดทั่วประเทศ จำลองห้องให้เหมือนกับถ้ำขนาดใหญ่ ทำให้นกที่ขาดการดูแลอย่างดีตามเกาะ เปลี่ยนวงจรมาอาศัยตามบ้านนกแทน

สอดคล้องกับข้อมูลของ ตี๋ บ้านนก ผู้รับสร้างบ้านนก ที่บอกว่าปริมาณรังนกบ้าน ออกสู่ท้องตลาดเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในทุกปี บางบ้าน คนและนกอาศัยอยู่ร่วมกัน และนกนางแอ่นชอบบินเข้ามาในเขตเมือง มากกว่าบ้านชานเมือง

จากการตรวจสอบคุณภาพรังนกในห้องปฏิบัติการ นักวิจัย พบว่ารังนกที่ได้จากถ้ำและบ้านนกต่างกันเพียงแค่ความเหนียวของเส้นรัง ขณะที่คุณภาพทางการโภชนาไม่แตกต่างกัน

แม้จะมีปริมาณรังนกเพิ่มขึ้น แต่กลับพบว่าตลาดจำหน่ายรังนกกลับสวนทางกัน นักวิชาการวิจัยรังนก ระบุว่า นั่นเป็นเพราะรัฐยังขาดความใส่ใจในการออกกฎหมาย เพื่อรองรับให้การจำหน่ายรังนกถูกต้อง นี่ทำให้รังนกที่ผลิตได้ต้องขายในตลาดใต้ดิน