ตีตรงจุด : 4 เดือน คดีแตงโมยังไม่จบ แต่พบคดีพ่วงอีกเพียบ

เจาะประเด็นข่าว 7HD - เป็นไปอย่างที่หลายคนคาดการณ์ว่าการสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ภัทรธิดา ที่มีการเลื่อนออกไปอีกแล้วเป็นครั้งที่สอง แต่ถ้าหากติดตามข่าวนี้มาตลอด 4 เดือน จะพบว่านอกจากผู้ต้องหาทั้ง 6 คนนี้ที่จะถูกดำเนินคดีแล้ว เรื่องนี้ยังมีบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมากที่ถูกดำเนินคดีด้วย เนื่องจากมีการพาดพิง กล่าวอ้าง ดูหมิ่น จะเป็นใคร ฝ่ายไหนบ้าง ติดตามได้จากรายงาน

พรุ่งนี้จะครบ 4 เดือนแล้ว กับการจากไปของ แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ดาราสาวที่ชีวิตจบลง ในวันที่หลายอย่างในชีวิตเธอกำลังเริ่มต้นใหม่ คดีเป็นที่กังขาของสังคมอย่างหนัก เพราะมีข้อพิรุธจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแต่แรก ทำให้เต็มไปด้วยคำถาม มากไปด้วยกระแส และหลักฐานมากมายที่ถูกหลายฝ่ายนำออกมาเปิดเผย จนนำไปสู่การฟ้องร้องดำเนินคดีกันแทบทุกฝ่าย ไม่เว้นแม้แต่ผู้ทำคดีเองอย่างตำรวจ

เริ่มกันที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ตั้งเป้าไปที่การเล่นงานชุดทำคดี และแพทย์นิติเวช โดยยื่นเรื่องร้องเรียนให้แพทยสภาให้ตรวจสอบแพทย์นิติเวชรายหนึ่งที่ออกมาให้ความเห็นทางวิชาการเกี่ยวกับบาดแผลของแตงโมว่าเกิดจากใบพัดเรือ สวนทางกับความเชื่อของนายอัจฉริยะ สุดท้ายจบที่การฟ้องแพทยสภา เอาผิดจริยธรรมทางการแพทย์

ส่วนด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็มีการยื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับนายตำรวจใหญ่ชุดคลี่คลายคดีแตงโม 4 นาย กล่าวหาว่า ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่กระทำการรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิดในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง นำข้อมูลเท็จหรือพยานหลักฐานอันเป็นเท็จเข้าสู่สำนวน เรื่องนี้ฟากของตำรวจยืดอกพร้อมให้ตรวจสอบ เพราะเชื่อว่าทำหน้าที่ตามขั้นตอนแล้ว

ขณะที่ นายอัจฉริยะ ก็ถูกฟ้องกลับอย่างน้อย 4 คดีแล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน จากการตั้งคำถามต่อขั้นตอนการทำงานต่าง ๆ ของตำรวจ และดูเหมือนจะตกที่นั่งลำบาก เพราะล่าสุด แม่ของแตงโมจะถอนฟ้องคดีที่ตนฟ้องตรง และไม่ฟ้องใครบนเรือ

ผู้เป็นอัยการเองยังยอมรับว่า คดีนี้เป็นคดีที่เกิดกระแสขึ้นมาหลากหลายที่ต้องนำสืบให้ครบทุกด้าน เกิดข้อสงสัยมากที่สุดเท่าที่เคยพบ นับเป็นบทเรียนใหม่ให้สังคม โดยเฉพาะการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ต้องรัดกุม และตอบคำถามสังคมให้ได้มากกว่านี้

นอกจากเจ้าหน้าที่จะถูกฟ้องร้องแล้ว เรื่องนี้ยังมีบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามายุ่งเกี่ยวอีกมาก หนึ่งในบุคคลที่สังคมให้ความสนใจในช่วงหนึ่ง คือ บังแจ็ค หรือ นายราจา ซูลคาร์เนียน ไฮเดอร์ ผู้ที่นำภาพ คลิป หลักฐานอื่น ๆ เพิ่มเติมที่ได้จากโทรศัพท์มือถือของแตงโม ซึ่งแม่เป็นคนส่งให้ และนำโทรศัพท์ของแตงโมมาเคลื่อนไหวแอบอ้างเป็นแตงโมในโลกโซเชียลมีวลีเด็ดคือ "เพื่อนรัก" ซึ่งจะหมายถึงใครไปไม่ได้นอกจาก กระติก อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ เธอถูกส่งข้อความหาด้วย จึงนำเรื่องนี้ไปแจ้งความ จนสุดท้ายบังแจ็คถูกออกหมายจับในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และนำข้อความเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์

คดีพ่วงจากคดีแตงโมยังลามไปถึงบุคคลในวงการบรรเทิง คือ จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ สามีของ หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ ที่ถูก แซน วิศาพัช แจ้งความในข้อหาหมิ่นประมาท จากการถูกเปรียบเทียบเป็นตัวเงินตัวทองในโลกโซเชียล ในเวลานั้น แซนได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า หนิง ปณิตา มีเรื่องให้ด่ามากกว่าตนตั้งเยอะ ซึ่งนับเป็นการด้อยค่าคนอื่น หนิง ปณิตา พร้อมสามีจึงแจ้งความกลับ แซน ในข้อหาหมิ่นประมาทเช่นกัน โดยมี ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เป็นที่ปรึกษา

อีกหนึ่งตัวละครสำคัญในเรื่องนี้ คือ สส.เต้ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่ออกตัวอย่างแรงในช่วงแรกต่อการทวงคืนความยุติธรรมให้แตงโม ก่อนจะยุติบทบาท และกลับมาผงาดอีกครั้งเมื่อได้ไฟเขียวจากคุณแม่ ก็ถูกจี้ตรวจสอบจริยธรรม สส. จากพฤติกรรมเชิงข่มขู่ ทนายดัง 4 ราย ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ จนสะเทือนถึงเก้าอี้ สส.

ในวันพรุ่งนี้ จะครบรอบ 4 เดือน การจากไปของ แตงโม คดีคนตายไม่คืบ คดีคนเป็นโผล่เพียบ เรื่องนี้จะจบลงอย่างไร ความเป็นธรรมของแตงโมที่สังคมถามหาอยู่ที่ตรงไหน แม้ว่าล่าสุดวันนี้จะมีนัดสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 6 คน แต่ท้ายสุดก็ถูกอัยการเลื่อนออกไปเป็นครั้งที่สอง ส่วนผู้ต้องหายังยืนยันในความบริสุทธื์ และจะเดินหน้าฟ้องกลับ ขณะที่ปริศนาการตายของ แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ยังเป็นที่กังขาของสังคมต่อไป