จับพ่อ นิกกี้ ณฉัตร หนีคดีพยายามฆ่าฯ

เช้านี้ที่หมอชิต - กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดยุทธการ "ปราบปรามคนพาล" พบหนึ่งในเป้าหมายคือพ่อของดาราหนุ่ม "นิกกี้ ณฉัตร" ที่ก่อคดียิงผู้อื่นเมื่อปี 2560 ที่จังหวัดเชียงใหม่ แล้วหลบหนีไม่ไปฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาจนถูกออกหมายจับเอาไว้

ปฏิบัติการของตำรวจ มีการเข้าค้นเป้าหมาย 19 จุด ทั่วประเทศ เพื่อตามจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีคดี รวม 17 คดี 1 ในนั้น คือ นายวรเชษฐ์ จันทพันธ์ บิดาของดาราหนุ่ม นิกกี้ ณฉัตร และเป็นยูทูปเปอร์สอนทำอาหาร และทำการเกษตรชื่อดัง ซึ่งมักจะใช้คำเรียกแทนตัวเองว่า "พี่ชาย" และมีผู้ติดตามมากกว่า 500,000 คน  

โดย นายวรเชษฐ์ เป็นผู้ต้องหาที่ถูกศาลออกหมายจับ เพราะหลบหนีไม่ไปฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีพยายามฆ่าผู้อื่น และคดีตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ จากที่ไปใช้อาวุธปืนลูกกรดกราดยิงใส่คนขับรถบรรทุก ที่นำรถไปจอดกีดขวางที่หน้ารีสอร์ตของนายวรเชษฐ์ ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี 2560 ซึ่งคดีนี้ ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ พิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 5 ปี และนายวรเชษฐ์ได้ยื่นฎีกา และประกันตัวออกมาสู้คดีเอาไว้ หลังจากหนีคดี ตำรวจสืบทราบว่ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในจังหวัดนนทบุรี จึงไปตามจับกุมตัวไว้ได้

หลังเห็นหมายจับ นายวรเชษฐ์ให้การยอมรับว่าเป็นผู้ต้องหาจริง เรื่องคดีก็บอกว่าไม่ได้มีเจตนาจะยิงใส่คนขับรถบรรทุก แต่เป็นอุบัติเหตุปืนลั่น ส่วนที่มาเปิดช่องยูทูป ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ ก็เพราะคิดว่าคดีของตนเสร็จสิ้นไปแล้ว

และหลังจากที่ นายวรเชษฐ์ ถูกนำตัวมาสอบสวนเพื่อทำบันทึกจับกุม ขณะที่ถูกตำรวจควบคุมตัวไปขึ้นรถเพื่อนำตัวไปส่งให้ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนส่งตัวเข้าเรือนจำเชียงใหม่ เพื่อรับโทษจำคุกตามคำพิพากษา โดย นายวรเชษฐ์ ซึ่งมีท่าทีอิดโรย แต่ก็พยายามหัวเราะ พร้อมกับบอกว่าสู้ ๆ    

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง โกบอย ธนวัฒน์ ผู้จัดการส่วนตัวของ นิกกี้ ณฉัตร ก็บอกว่านิกกี้ทราบข่าวเรื่องพ่อแล้ว โดยไม่เคยรู้มาก่อนว่าพ่อมีคดีความแบบนี้ติดตัวอยู่ ทราบจากข่าวหลังถูกจับเช่นกัน

นอกจากจับกุมพ่อของดาราหนุ่มแล้ว ในปฏิบัติการครั้งนี้ยังจับกุมตัว นายคม ธนิกุล บุตรชายของนายแคล้ว ธนิกุล อดีตผู้กว้างขวางเจ้าของฉายาเจ้าพ่อนครบาล โดยนายคมถูกจับกุมตัวได้ในพื้นที่ตำบลเกาะขันธ์ อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ตามหมายจับคดีใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นเสียชีวิต ที่ศาลารอรถโดยสารในอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ท่ามกลางสายตาของชาวบ้าน และหลบหนีหมายจับจนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหายังมีพฤติการณ์ตั้งตนเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช อีกด้วย