คอลัมน์หมายเลข 7 : คดีแรก เสียบบัตรแทนกัน ศาลฎีกา จำคุก ธนิกานต์ 1 ปี

ข่าวภาคค่ำ - ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษา จำคุก 1 ปี ปรับ 200,000 บาท ธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ สส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ปมเสียบบัตรแทนกัน แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี จะมีผลอย่างไรต่อตำแหน่ง สส.และอนาคตการเมือง ติดตามในคอลัมน์หมายเลข 7 กับคุณสมจิตต์ นวเครือสุนทร

ธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ สส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เป็นสส.คนแรก ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินโทษวันนี้ ในคดีเสียบบัตรแทนกัน โดยศาลฯ ชี้ถึงพฤติการณ์กระทำผิดที่ฝากบัตรให้ สส.คนอื่นลงคะแนนแทนว่า เข้าข่ายความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช.มาตรา 172 แต่ยังปราณี เนื่องจากไปเป็นวิทยากร งานเสวนาแบ่งปันความรู้บทบาทแม่ยุคดิจิทัล ซึ่งจัดขึ้นช่วงเวลาเดียวกับที่สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างพระราชบัญญัติเหรียญราชรุจิ รัชกาลที่ 10 พฤติการณ์จึงไม่ร้ายแรงมากนัก ประกอบกับไม่เคยทำผิดมาก่อน จึงให้โอกาสกลับตัว โดยลงโทษเพื่อให้หลาบจำด้วยการปรับสถานหนัก 200,000 บาท ส่วนโทษจำคุก 1 ปี ให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ซึ่งในแง่ของกฎหมายถือว่า ธนิกานต์ พ้นจากความเป็น สส.แล้ว เหลือเพียงข้อถกเถียงว่า จะลงสมัครรับเลือกตั้งได้อีกหรือไม่ เนื่องจากศาลฯ ไม่ได้มีคำสั่งเกี่ยวกับโทษทางการเมือง

มุมมองของเลขาธิการ ป.ป.ช. สอดรับกับความเห็นของอาจารย์เจษฎ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษา กรธ. ที่เห็นว่า ธนิกานต์ พ้นจากความเป็น สส.แล้ว แต่เชื่อว่าจะยังไม่มีใครกล้าชี้ขาด จนกว่าจะมีการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

สำหรับ สส.ที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด เสียบบัตรแทนกัน นอกจาก ธนิกานต์ แล้ว ยังมี 3 สส.จากพรรคภูมิใจไทย ประกอบด้วย นาที รัชกิจประการ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ, ฉลอง เทอดวีระพงศ์ และภูมิศิษฐ์ คงมี สส.พัทลุง ซึ่งทั้งหมดรวมทั้ง ธนิกานต์ ถูกป.ป.ช.ส่งฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อเอาผิดในคดีอาญา ควบคู่ไปกับส่งศาลฎีกา ให้ตัดสินผิดจริยธรรมร้ายแรงด้วย โดยในส่วนของความผิดจริยธรรมร้ายแรงนั้น ศาลฎีกานัดพร้อมฟังผลตัดสิน คดีของ ธนิกานต์ 09.00 น. ของวันที่ 16 สิงหาคมนี้ ซึ่งหากศาลฯพิพากษาว่ามีผิดความผิดตามฟ้อง ก็จะส่งผลให้ถูกตัดสิทธิการเมืองทันที

หลังจาก ธนิกานต์ ก็จะถึงคิว 3 สส.จากพรรคภูมิใจไทย ซึ่งในส่วนของ นาที กลายเป็นอดีต สส.หลุดตำแหน่งไป ตั้งแต่คดียื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จต่อ ป.ป.ช.แล้ว แต่วิบากกรรมยังไม่จบ ถูกเช็กบิลต่อ จากปัญหาเสียบบัตรแทนกัน เป็นคดีตัวอย่าง เตือนสตินักการเมือง เมื่อเป็นผู้แทนปวงชน ต้องทำหน้าที่ให้สมศักดิ์ศรี ไม่เช่นนั้นถนนเส้นนี้ก็เดินต่อไม่ได้