ข่าวในหมวด ข่าว 7 สี

คอลัมน์หมายเลข 7 : ตรวจสอบทุจริต เงินสัจจะออมทรัพย์ฯ ชุมชนเขาคราม จ.กระบี่

ข่าวภาคค่ำ - คอลัมน์หมายเลข 7 วันนี้ ติดตามตรวจสอบปัญหาชาวบ้านที่จังหวัดกระบี่ ซึ่งฝากเงินกับเครือข่ายกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ฯ ชุมชนเขาคราม มานาน แต่พอจะถอน หรือกู้เงิน ไม่สามารถทำได้ ท่ามกลางการตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เป็นเพราะมีการทุจริตหรือไม่ คุณสุธาทิพย์ ผาสุข มีรายงานเรื่องนี้

เมื่อมีความต้องการใช้เงิน แต่ไม่สามารถกู้เงินและถอนเงินที่นำไปฝากสะสมไว้กับเครือข่ายกลุ่มสัจจะออมทรัพย์เพื่อพัฒนาวิถีชีวิต ชุมชนเขาคราม เอามาใช้จ่ายได้ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ วรรณณา และตัวแทนสมาชิกเครือข่ายกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ฯ ชุมชนเขาคราม เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ลงบันทึกประจำวันกับตำรวจ สภ.อ่าวนาง ในฐานะผู้ที่ได้รับความเสียหาย เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา

ข้อมูลจากสมาชิก บอกว่า กลุ่มสัจจะออมทรัพย์ฯ ชุมชนเขาคราม จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2546 เริ่มต้นด้วยการรวมกลุ่มกันของคนในชุมชน โดยสมาชิกจะนำเงินฝากเก็บออมเป็นรายเดือน มากน้อยแล้วแต่กำลังทรัพย์ ถึงสิ้นปีก็จะได้รับเงินปันผลเฉลี่ยคืน

สมาชิก 1 คน จะมีสมุดบัญชีเงินฝากประจำตัว 1 เล่ม ยืนยันจำนวนเงินที่ถือครองไว้ และสามารถใช้เป็นหลักฐาน กู้เงินในกลุ่มได้

รูปแบบการบริหารหรือดำเนินการต่าง ๆ ในกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ฯ ชุมชนเขาคราม จะมีลักษณะเหมือนธนาคารชุมชน หรือธนาคารหมู่บ้าน มีการจัดตั้งคณะกรรมการ จำนวน 8 คน ทำหน้าที่ช่วยกันเก็บรวบรวมเงินจากสมาชิก และจดบันทึกส่งมอบให้กับประธานกลุ่มฯ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบหลัก มีอำนาจบริหารจัดการเงิน ร่วมกับภรรยา ซึ่งมีตำแหน่งเป็นกรรมการ

เวลานี้สมาชิกในกลุ่ม ไม่เชื่อว่าการไม่ยอมผ่อนชำระหนี้ที่กู้ของสมาชิก จะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เงินสัจจะขาดสภาพคล่อง จึงมีการตั้งข้อสังเกตเรื่องการทุจริตกันภายใน ซึ่งเรื่องนี้ทางประธานกลุ่ม ยืนยันว่า ไม่มีการทุจริต แต่เป็นเพราะปัญหาการบริหารงานที่ผูกพันสะสม ตั้งแต่ยุคที่มีสมาชิกกว่า 5,000 คน มีเงินทุนหมุนเวียนกว่า 20 ล้านบาท และเกิดปัญหาประธานบริหารชุดก่อตั้งเสียชีวิตลง ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ซึ่งกลุ่มออมทรัพย์ระดับหมู่บ้านต่างก็แยกตัวออกมา โดยมีเงินฝากที่ไม่สามารถถอนคืนจำนวนหนึ่งราว ๆ 400,000 บาท ที่ต้องหายไป

ปัจจุบันชาวบ้านซึ่งเป็นสมาชิกในกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ ชุมชนเขาคราม มีจำนวน 380 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านหมู่ที่ 2 บ้านหนองจิก ตำบลเขาคราม และหมู่บ้านใกล้เคียง ซึ่งเบื้องต้นได้รับความเดือดร้อนแล้วกว่า 70 ราย เนื่องจากต้องการจะถอนเงิน แต่ไม่สามารถถอนได้ วงเงินประมาณ 1,300,000 บาท ขณะที่ทางตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน และทยอยสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark