สุเทพ พ้นบ่วงกรรม คดีโรงพักร้าง พร้อมทำการเมืองเต็มสูบ
เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวานนี้มี 2 คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่สำคัญเกี่ยวกับนักการเมืองระดับชาติ ซึ่งคำตัดสินออกมาว่า รอดทั้ง 2 สำนวน
สำนวนแรกในคดีที่ ป.ป.ช. ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 6 คน กรณีร่วมฮั้วประมูลโครงการสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่ง ซึ่งศาลฎีกาฯมีคำพิพากษายกฟ้อง
เนื่องจากเห็นว่า ครม.ได้อนุมัติโครงการในหลักการเท่านั้น ไม่ได้รวมถึงวิธีการจัดซื้อจัดจ้าง ดังนั้นแม้นายสุเทพ จะมีอำนาจอนุมัติให้มีการเปลี่ยนแปลงการจัดซื้อจัดจ้างจริง ก็เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ โดยไม่จำเป็นต้องนำเสนอต่อที่ประชุม ครม. จึงไม่มีความผิดตามคำฟ้อง
ก็ทำให้กองเชียร์พากันดีอกดีใจ ขณะที่ นายสุเทพ ก็ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นสิริมงคล หลังพ้นพงหนามที่ทำให้ทุกข์ใจมานานเกือบ 10 ปี พร้อมประกาศเดินหน้าทำงานการเมืองสนับสนุนพรรครวมพลัง ซึ่งในขณะนี้เป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด เนื่องจากรัฐธรรมนูญปี 60 เปิดช่องให้คู่กรณีที่ยังไม่พอใจต่อผลการตัดสิน ยื่นอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้ ภายใน 30 วัน หลังศาลฯมีคำพิพากษา จึงต้องรอดูว่า ป.ป.ช.จะยื่นอุทธรณ์ในคดีนี้ต่อหรือไม่
ส่วนอีกคดีคนได้เฮ คือ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายอุดมเดช รัตนเสถียร อดีตประธานวิปรัฐบาล ที่ถูก ป.ป.ช.ฟ้องฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีสับเปลี่ยนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มา สว. ซึ่งเป็นการเพิ่มเนื้อหาแตกต่างจากร่างเดิมในชั้นรับหลักการ โดยไม่มีสมาชิกรัฐสภาลงชื่อรับรอง
ซึ่งศาลฯพิจารณาแล้ว เห็นว่า จำเลยทั้งสองคนไม่ได้มีเจตนาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ หรือมีเจตนาพิเศษ จนทำให้เสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ศาลจึงมีคำพิพากษายกฟ้อง ซึ่งคดีก็ยังไม่ถึงที่สุดเช่นเดียวกัน โดย ป.ป.ช.มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ผลคำตัดสินได้ภายใน 30 วัน