ตีตรงจุด : บทสรุป รถกระบะชนเยาวชนอายุ 17 ปี หวิดเป็นเจ้าชายนิทรา

เช้านี้ที่หมอชิต - ช่อง 7HD นำเสนอข่าว เยาวชนอายุ 17 ปี ที่ถูกรถกระบะชน จนหวิดเป็นเจ้าชายนิทรา แต่สุดท้ายรอดมาได้ และร้องเรียนมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ว่าคู่กรณีไม่ยอมชำระค่าเสียหาย ตามที่เรียกร้อง 700,000 บาท ผ่านมาจนถึงวันนี้คดีได้ข้อยุติแล้ว ตีตรงจุดวันนี้เราจะย้อนไปดูเส้นทางของคดีนี้ ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง และบทสรุปเรื่องนี้เป็นอย่างไร

คดีเริ่มที่ ครอบครัวของนางบุญช่วย ตามธรรม แม่ของเยาวชนอายุ 17 ปี ที่ถูกรถกระบะชนเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ถนนหน้าศาลเจ้าแม่กวนอิม แขวงแสมดำ หอบหลักฐานทั้งหมด มาร้องต่อนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายคลายทุกข์ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมว่าคดีที่แจ้งความไว้ที่ สน.ท่าข้าม ไม่มีความคืบหน้า เพราะลูกชายออกจากโรงพยาบาลมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ก่อนหน้านี้ลูกชายอาการแย่ หมอบอกเปอร์เซ็นรอดแทบไม่มี และถ้ารอดมาได้ก็คงเป็นเจ้าชายนิทรา ส่วนคู่กรณีตอนแรกที่คุยกัน ก็เรียกค่าเสียหายไป 700,000 บาท เพราะอาการหนัก แต่สุดท้าย ก็ไม่ยอมจ่ายอ้างว่าไม่มีเงิน

ต่อมาวันที่ 3 สิงหาคม สน.ท่าข้าม รับเป็นตัวกลางเปิดเวทีให้คู่กรณีพูดคุย ส่วนพนักงานสอบสวนก็ชี้แจงกระบวนการทางคดี ซึ่งครอบครัวเยาวชนอายุ 17 ปี  พึงพอใจ เพราะพันตำรวจเอก เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผู้กำกับการ สน.ท่าข้าม รับปากจะเร่งทำคดีให้ โดยตำรวจดำเนินคดีกับคนขับรถไป 3 ข้อหา คือ ขับรถประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้บาดเจ็บสาหัส ไม่ต่อภาษี และไม่ต่อประกัน

แต่การเจรจาไม่สวยหรู และเป็นไปด้วยความดุเดือด ประเด็นหลักคู่กรณีย้ำว่า ขณะเกิดเหตุมืดมาก และรถกระบะตัวเองค่อนข้างสูงจึงมองไม่เห็นรถเยาวชน ตอนเกิดเหตุก็ไม่มีร่องรอยที่รถ ก่อนมาเจอภายหลัง และไม่ได้หลบหนี มีการติดตามไปที่โรงพยาบาล เพื่อแสดงน้ำใจทันที โดยให้เงิน 5,000 บาทเป็นค่าเดินทาง แต่ครอบครัวผู้เสียหายไม่รับ เขาพยายามช่วยเหลือสิ่งของให้ประจำ และยืนยันว่าไม่เคยพูดว่าไม่มีเงิน และจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น

ด้านแม่ผู้เสียหาย ชี้แจงว่า ที่เรียก 700,000 บาท เพราะลูกอาการสาหัส กลัวลูกไม่กลับมาเป็นปกติ ปัจจุบันเงินไม่พอใช้ต้องเป็นหนี้ เพราะหยุดงานมาดูแลลูกและคู่กรณีไม่ยอมเจรจาด้วย บอกไม่มีเงิน

ต่อมาตำรวจทำสำนวนส่งฟ้อง ถึงอัยการ และอัยการก็เห็นชอบให้สั่งฟ้องคนขับรถกระบะทุกข้อหาเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม โดยปรับรายละเอียดค่าเสียหาย จากเดิม 700,000 บาท เป็น 1.8 ล้านบาท และนัดคุ้มครองสิทธิ เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งผลการพูดคุยเป็นไปในทิศทางที่ดี

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (21 ก.ย.) ที่ศาลแขวงธนบุรี นางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ ทีมงานทนายคลายทุกข์ พาครอบครัวเยาวชน เข้าฟังการตัดสินชั้นต้นของศาลแขวงธนบุรี

โดยศาลมีคำสั่งจำคุก 6 เดือน ปรับ 18,000 บาท แต่จำเลยรับสารภาพ ศาลจึงตัดสินจำคุก 3 เดือน ปรับ 9,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี โดยต้องรายงานตัวต่อกรมคุมประพฤติ 4 ครั้ง ใน 1 ปี ทำสาธารณประโยชน์ 24 ชั่วโมง และอบรมวินัยจราจร 1 ครั้ง หากไม่ปฏิบัติตามศาลมีสิทธิสั่งจำคุกได้ทันที

ขณะผลการเจรจาตกลงค่าเสียหาย คู่กรณียอมชดใช้เงิน 450,000 บาท โดยจ่ายเงินสด 300,000 บาท อีก 150,000 บาท ขอผ่อนชำระ 15 งวด

ขณะที่แม่ของผู้บาดเจ็บ บอกว่า จะนำเงินส่วนนี้ไปดูแลรักษาลูกชาย เพราะจะต้องใส่กะโหลกเทียม และอาจต้องดูแลต่อไปอีกนาน 

ผู้เสียหาย ยังเดินทางไปที่ศูนย์คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เพื่อรับเงินเยียวยากรณีผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุอาชญากรรม เป็นเงินราว 80,000 บาท พร้อมกล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือ

สุดท้ายเรื่องนี้ ก็จบลงด้วยดี อย่างน้อยครอบครัวนี้ก็ได้รับความเป็นธรรม เพราะคนทำผิดถูกลงโทษ แม้จะไม่ได้ตามที่ตั้งใจทั้งหมด แต่ถือว่าเพียงพอที่จะมาดูแลลูกชายต่อไป