แก๊งชาวต่างชาติ ขู่ชาวรัสเซีย ที่เกาะสมุย โอนเงินดิจิทัลกว่า 110 ล้านบาท หนีกลับประเทศแล้ว

เช้านี้ที่หมอชิต - มาเฟียชาวต่างชาติ ยังไม่ปริปากรับผิด บังคับให้สามีภรรยาชาวรัสเซีย โอนเงินสกุลดิจิทัลใช้หนี้นับร้อยล้านบาท ในพื้นที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขณะที่ผู้ร่วมก่อเหตุอีก 4 คน บินหนีออกนอกประเทศ ตำรวจเร่งประสานออกหมายแดงล่าตัว

เชื่อว่าท่านผู้ชมคงยังจำกันได้ กับข่าวมาเฟียชาวรัสเซีย บุกจี้เศรษฐีสามี-ภรรยาชาวรัสเซีย กลางร้านกาแฟบนเกาะสมุย แบบกลางวันแสก ๆ พร้อมกับชิงเงินสกุลดิจิทัล ไปประมาณ 3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 112 ล้านบาท

โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 นายเยฟกินี อับดุลลิน (MR.EVGENII ABDULLIN) สัญชาติรัสเซีย ถูกชายชาวต่างชาติ 5 คน ใช้กำลังประทุษร้าย ก่อนบีบให้โอนเงินสกุลดิจิทัล ไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลของกลุ่มคนร้าย

แล้วจากนั้นคนร้าย จำนวน 4 คน ก็เดินไปขึ้นรถตู้สีดำ ส่วนที่เหลือยังบังคับให้ผู้เสียหายโอนเงินส่วนที่เหลือให้ ก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์คันสีแดงออกไป

ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิด ตำรวจได้ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องจำนวน 5 คน ฐานร่วมกันปล้นทรัพย์, ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือยอมจำนนต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สิน ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือยอมจำนนต่อสิ่งนั้น”

โดยได้จับกุมตัว ชายสัญชาติคาซัคสถาน ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล พร้อมนี้ได้ตรวจยึดสิ่งของที่ใช้กระทำความผิด รวม 4 รายการ คือ รถตู้, รถจักรยานยนต์ 2 คัน และโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะสมุย

นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการควบคุมตัวคนขับรถตู้มาอีกราย เพื่อสอบเส้นทางการเข้า-ออกพื้นที่ ซึ่งจากการสอบสวนผ่านล่าม ผู้ต้องหา ยอมรับว่า รู้จักกับคนที่อยู่ในคลิปทุกคน แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะตนเองก็แค่เดินทางมาท่องเที่ยว

ส่วนผู้ต้องหาชาวต่างชาติที่เหลือ จากการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางเข้าออก ของชายสัญชาติคาซัคสถาน 2 คน ได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยพร้อมกัน เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565 และเดินทางออกจากราชอาณาจักรไทย ไปเมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา

ส่วนชายสัญชาติเยอรมัน อีก 2 คน เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยพร้อมกัน เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2565 และออกจากราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 18 กันยายน ตามลำดับ ซึ่งตำรวจกำลังประสานองค์การตำรวจสากล (INTERPOL) เพื่อออกหมายแดง ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี